นางอังคณา นีละไพจิตร เปิดเผยกับ The Reporters ภายหลังได้รับรางวัลรามอน แมกไซไซ 2019 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งนางอังคณา เป็น 1 ใน 5 คนที่ได้รับรางวัลในปีนี้ นางอังคณา เปิดเผยว่า ดีใจที่เป็นผู้หญิงคนเดียวในจำนวน 5 คน ที่ได้รับรางวัล และรู้สึกปลื้มใจที่มีคนเห็นคุณค่า จึงอยากบอกหลายคนที่อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เรายังจำเป็นต้องร่วมกันผลักดันให้ประเทศของเราให้มีความยุติธรรม มีความคุ้มครองสิทธิ รางวัลนี้เป็นหนึ่งในกำลังใจที่ได้รับ ในการทำงานมากขึ้น ขอบคุณคนไทย เพื่อนๆในเมืองไทยที่ส่งกำลังใจมาให้และต้องขอบคุณคุณฟิลิปปินส์ที่ให้ความสนใจกับการมารับรางวัลในครั้งนี้มากด้วย
นางอังคณา ถือเป็นคนไทยคนที่ 23 ที่ได้รับรางวัลนี้ ในรอบ 54 ปี จากคนแรกคือ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เมื่อปี 2508 และว่างเว้นมาตลอด 10 ปี หลัง ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ ได้รับรางวัลเมื่อปี 2552
นางอังคณา เป็นภรรยาของทนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนที่ช่วยเหลือคดีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และหายตัวไปเมื่อ 15 ปีก่อน นางอังคณา ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อความยุติธรรมให้สามีที่เชื่อว่าถูกอุ้มหาย แต่จนถึงวันนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่าทนายสมชาย หายไปไหน
การต่อสู้ของนางอังคณา ที่ผ่านมาถูกกระบวนการต่างๆมากมายในการข่มขู่ คุกคาม กับความพยายามค้นหาความจริง ทั้งจากอำนาจรัฐ อำนาจมืด แต่นางอังคณา ต่อสู้ด้วยความกล้าหาญ จนมีส่วนสำคัญในการผลักดันกฏหมายป้องกันการทรมานและบังคับบุคคลสูญหาย และการทำหน้าที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในยุครัฐบาล คสช.นางอังคณา ก็มีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนที่ถูกละเมิดสิทธิทางการเมือง และไม่ได้รับความเป็นธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ถือเป็นนักสิทธิมนุษยชนที่ทำหน้าที่อย่างกล้าหาญ และไม่ท้อถอย ตรงกับประเด็นการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมได้รับ รางวัล Ramon Magsaysay Award ปี 2019 ที่ว่า Courage, Undaunted คือ “ความกล้าหาญ ไม่ท้อถอย”
รางวัล Ramon Magsaysay Award เป็นรางวัลที่มอบให้แก่บุคคลที่ทำงานในประเด็นเกี่ยวข้องกับการพัฒนามนุษย์ในทวีปเอเชียด้วยความกล้าหาญและความคิดสร้างสรรค์ซึ่งมีส่วนส่งเสริมและเปลี่ยนแปลงสังคมของตนเองให้ดีขึ้น
รางวัลนี้ถือเป็น รางวัล โนเบล แห่งภูมิภาคเอเชีย