HUMANITY

อธิบดีกรมการกงสุลฯ เผย ช่วยคนไทยออกมาอีก 2 รวมยอดปลอดภัย 164 คน

อธิบดีกรมการกงสุลฯ เผยคุยโทรศัพท์กับคนไทยในที่พักพิงเล้าก์ก่าย ไม่ห่วงอาหารการกิน-ได้ยินเสียงหัวเราะ รายงานช่วยคนไทยออกมาอีก 2 รวมยอดปลอดภัย 164 คน เหลือในที่ทำงาน 60 คน คาดเมียนมากำลังหาโอกาสให้เข้าตรวจสัญชาติ เตรียมออกเอกสารเดินทางฉุกเฉิน ประเมินเส้นทางกลับผ่านจีน

วันนี้ (9 พ.ย. 66) นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล แถลงข่าวกรณีการช่วยเหลือคนไทยในเมืองเล้าก์ก่าย รัฐฉาน ประเทศเมียนมา

นายรุจ กล่าวว่าที่ผ่านมามีคนไทย 162 คน ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากอาคารและสถานบันเทิงในเมืองเล้าก์ก่าย โดยทหารและตำรวจเมียนมาจัดที่พักพิงให้ในพื้นที่ค่ายทหารแล้ว ขณะที่คนไทยที่รอการช่วยเหลือในสถานที่ทำงานเหลืออีก 60 คน

ทั้งนี้ มีรายงานว่ามีคนไทยได้รับการช่วยเหลือให้ออกมาจากสถานที่ทำงานแล้ว และรอการส่งตัวไปยังที่พักของการเมียนมาอีก 2 คน รวมเป็นสถานะคนไทยในปัจจุบัน 164 คน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีหนังสือเดินทาง ซึ่งจะต้องออกหนังสือเดินทางชั่วคราว หรือเอกสารเดินทางฉุกเฉิน (Emergency Travel Document: ETD) ต่อไป

นายรุจ ยังเปิดเผยว่า ได้มีโอกาสสนทนาทางโทรศัพท์กับตัวแทนคนไทยในค่ายนั้น และได้ยินเสียงหัวเราะคนไทย โดยทางการเมียนมาจัดข้าวกล่องและขนมมาให้ตลอด จึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอาหาร และจะพยายามให้คนไทยออกมาได้ในโอกาสแรก

ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางไปยังกรุงย่างกุ้ง ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อขอรับการยืนยันจากทางการเมียนมาว่า คนไทยเหล่านั้นได้รับความช่วยเหลือแล้วหรือไม่ ซี่งทางการเมียนมาตอบรับว่าช่วยเหลือแล้ว และอยู่ในสถานที่ปลอดภัยทุกคน ซึ่งต้องรอการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่กงสุลและสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศเข้าไปช่วยจำแนกสัญชาติภายในที่พักพิงในค่ายทหารนั้น

ผู้สื่อข่าวยังถามถึงสัญญาณกรอบเวลาของทางการเมียนมาในการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ต่างประเทศเข้าไปตรวจสอบสัญชาตินั้น นายรุจ เปิดเผยว่า ทางการเมียนมาอยู่ในระหว่างพิจารณาสถานการณ์ ตลอดจนพิจารณาเส้นทางช่วยเหลือผ่านประเทศจีนว่ามีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด ซึ่งเข้าใจว่า ขณะนี้อยู่ในที่ประชุมของทางเมียนมาแล้ว เตรียมเสนอผู้ใหญ่ต่อไป

ส่วนกรณีที่ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ว่าอาจให้ความช่วยเหลือคนไทยผ่านเส้นทางประเทศจีนนั้น นายรุจ ชี้แจงว่า ตามกระบวนการจะต้องขอการตรวจลงตรา (วีซ่า) และการประสานยานพาหนะ โดยเมืองเล้าก์ก่ายนั้นห่างจากชายแดนจีนเพียง 5 กิโลเมตร ที่ผ่านมาจึงประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง และกรุงปักกิ่ง สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง ตลอดจนทำงานกับองค์กรที่ไม่ใช่รัฐ (NGO) ทั้งมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี และมูลนิธิอิมมานูเอลด้วย

นายรุจ ยังเน้นย้ำถึงการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนคนไทยว่า ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกาศเตือนในหลายช่องทาง เช่น แอปพลิเคชันติ๊กต่อก และรายการโทรทัศน์ ให้ช่วยพิจารณาอย่างมีสติ อย่าไปหลงเชื่อข่าวชักชวนให้ไปทำงานในต่างประเทศที่มีรายได้สูงล่อใจ ที่ผ่านมาเท่าที่สอบถามเหยื่อ พบว่ามีเฟสบุ๊กจัดหางาน ชวนไปทำงานบริษัท ปรากฏมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร คัดเลือกเข้าไปทำงานในบริษัทนี้แล้ว พร้อมจะจัดส่งค่าตั๋วเครื่องบินให้ด้วย แต่เมื่อเดินทางมาถึงกลับถูกริบหนังสือเดินทาง เงินเดือนก็ไม่ได้ตามที่ประชาสัมพันธ์ไว้

Related Posts

Send this to a friend