กรมอนามัย เตือน ล้างผักให้สะอาดก่อนปรุงอาหาร ระวังสารพิษตกค้างในพืชผัก อันตรายถึงชีวิต
กรมอนามัย เตือน ล้างผักให้สะอาดทุกครั้งก่อนปรุงอาหาร โดยเฉพาะในเทศกาลกินเจ แนะหลีกเลี่ยงผักนอกฤดูกาล พร้อมประกาศหนุนนโยบายแบนสารเคมีเกษตร 3 ชนิด หลังพบสารเคมีตกค้างในพืขผัก โดยเฉพาะผักสดยอดนิยม 10 ชนิดในตลาด เตือนได้รับปริมาณมากอาจหน้ามืด หรือหัวใจวาย แต่หากปริมาณน้อย แต่สะสมนานๆ เสี่ยงมะเร็งได้
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลกินเจที่จะถึงนี้ กรมอนามัยมีข้อแนะนำสำหรับการนำพืข ผักมาปรุงอาหารว่า ให้ล้างให้สะอาดทุกครั้งเพื่อป้องกันสารเคมีตกค้าง หรือการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค โดย
– ล้างผ่านน้ำก๊อกที่ไหลนาน 2 นาที หรือ
– แช่ในน้ำผสมเกลืออัตราส่วน 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร หรือ
– น้ำผสมน้ำส้มสายชูอัตราส่วนครึ่งถ้วยตวงต่อน้ำ 4 ลิตร หรือ
– น้ำผสมโซเดียม ไบคาร์บอเนต (เบคกิ้งโซดา) อัตราส่วน 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร
โดยให้แช่ทิ้งไว้ 10-15 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำเปล่า 2 ครั้ง
สำหรับผักบางชนิด เช่น คะน้า กะหล่ำ ถั่วฝักยาว หากมีคราบขาวจับที่กาบใบ หรือฝักมากเกินไป ให้ล้างน้ำหลายๆ ครั้ง และคลี่ใบมาถูหรือล้างด้วยการเปิดน้ำไหลผ่านอย่างน้อย 2 นาที เพื่อความปลอดภัยและลดการปนเปื้อนของสารเคมี
“สำหรับผู้บริโภคที่ปรุงอาหารเจกินเองในครอบครัว มีข้อแนะนำว่าไม่ควรกินผักนอกฤดูกาลเนื่องจากมีแนวโน้มของการใช้สารเคมีมากกว่าผักตามฤดูกาล ก่อให้เกิดปัญหาสารพิษตกค้างและเป็นอันตรายมาก ซึ่งเมื่อได้รับสารนี้ในปริมาณมากจะทำให้เวียนศีรษะ หน้ามืด ท้องร่วง ไปจนถึงอาจเกิดหัวใจวายและเสียชีวิตได้ แต่ถ้าได้รับในปริมาณน้อยๆ ค่อยๆ สะสมในร่างกายจะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งในระยะยาวได้เช่นกัน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
พร้อมกันนี้ แพทย์หญิงพรรณพิมล ยังได้กล่าวว่า รัฐบาล โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีแนวทางชัดเจนในการยกเลิกใช้สารเคมีเกษตร 3 ชนิดอันตราย ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ที่ใช้ด้านเกษตรกรรม ซึ่งได้มีการยกเลิกไปแล้วในหลายๆ ประเทศทั่วโลก เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เกษตรกร และสิ่งแวดล้อมทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงอยากขอความร่วมมือเกษตรกรงดใช้สารเคมีดังกล่าว ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมากเช่นกัน
