HEALTH

ดูแลสุขภาพใจ-เลือกของขวัญเหมาะกับวัย เทคนิคกระชับความผูกพันวันพ่อแห่งชาติ

พยาบาลวิชาชีพจิตอาสา ชวนลูกหลานทำกิจกรรมวันพ่อ เน้นสร้างกำลังใจยกเป็นคนพิเศษในใจลูก แนะเลือกของขวัญตรงใจตรงกับวัยดีที่สุด

หมั่นดูแลพ่อแม่ทุกวันว่าดีอยู่แล้ว แต่ยิ่งใกล้เทศกาลวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคมที่จะมาถึงนี้ แถมยังเป็นวันชาติอีกด้วยนั้น หากลูกๆหลานๆเพิ่มความใส่ใจ ดูแลคุณพ่อมากขึ้นไปอีก เชื่อว่าผู้สูงอายุย่อมใจฟูเป็นทวีคูณ ที่สำคัญเราสามารถพลิกแพลงวันสำคัญนี้ เพื่อดูแลสุขภาพทั้งสุขภาพใจและสุขภาพกายให้กับคุณพ่อแต่ละช่วงวัยได้ เพราะอย่าลืมว่าคนวัยนี้ย่อมรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวได้ง่าย ซึ่งเป็นไปตามวัยของท่าน หรือแม้การสร้างความประทับใจให้กับผู้เป็นบิดา เพื่อให้รู้สึกว่าท่านยังมีคุณค่ากับลูกหลาน ด้วยการมอบของขวัญสุดล้ำค่า ที่ไม่ต้องใช้เงินจำนวนมากในการซื้อหา เช่น การพาท่านไปรับประทานอาหารร้านโปรดที่คุ้นเคย หรือแม้แต่การยกหูโทรศัพท์โทรหาท่าน เพื่อให้คลายความคิดถึง ก็เท่ากับเป็นการตอบแทนพระคุณพ่อได้อย่างง่ายๆแล้ว

พรวรินทร์ นุตราวงศ์ พยาบาลวิชาชีพ จากชมรมพยาบาลแบบประคับประคอง

The Reporter ได้พูดคุยกับ พรวรินทร์ นุตราวงศ์ พยาบาลวิชาชีพ จากชมรมพยาบาลแบบประคับประคอง ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพคุณพ่อ รับเดือนวันพ่อแห่งชาติที่จะมาถึง ตั้งแต่การดูแลสุขภาพใจ และสุขภาพกายด้วยการเลือกของขวัญในแต่ละช่วงวัย เพื่อให้ตรงกับความต้องการ และสร้างเสริมความสุขให้กับสมาชิกในครอบครัว ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

พรวรินทร์ ให้ข้อมูลว่า “ การดูแลคุณพ่อรับวันพ่อแห่งชาติที่จะมาถึงนี้ วิธีที่ง่ายที่สุดนั้นหากว่าลูกหลานอยู่ไกลพ่อ ก็ให้โทรศัพท์หาหรือวิดีโอคอลหาท่าน เพื่อบอกรักหรือถามสารทุกข์สุกดิบ เพียงเท่านี้ท่านก็รู้สึกดีแล้ว ว่าอย่างน้อยลูกๆก็ยังคิดถึงและไม่ลืมท่านในวันสำคัญ แต่ถ้าหากลูกๆอยู่ใกล้ท่าน ก็ให้มารับท่านไปรับประทานอาหารร่วมกัน แนะนำว่าอย่าคิดมากในการเลือกสรรกิจกรรมเพื่อผู้ใหญ่ ลูกหลานสามารถทำอะไรก็ได้ ที่ทำให้ท่านรู้สึกว่าท่านเป็นคนพิเศษสำหรับลูกๆ เพียงเท่านี้ก็เป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้ว

“ในส่วนของการดูแลสุขภาพใจ รับวันพ่อที่สำคัญอีกเรื่องคือ เช่น หากคุณพ่อของเราอายุ 70 ปี หรืออยู่ในวัยเลข 7 ซึ่งก่อนหน้าท่านเคยเป็นผู้บริหารระดับสูง หรือเคยรู้สึกมีความภูมิในการเป็นผู้นำ หรือเป็นหัวหน้าครอบครัว แนะนำว่าลูกหลานไม่ควรพูดในเชิง ของการให้คุณพ่อพักอยู่บ้าน หรือหยุดทำงาน เพราะนั่นจะทำให้ท่านรู้สึกหมดความภูมิใจ และหมดกำลังใจ แต่ลูกหลานควรที่จะพูดหรือทำบางอย่าง เพื่อให้คุณพ่อวัยนี้รู้สึกดีกับเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา ทั้งการเป็นหัวหน้าครอบครัว หรือเป็นผู้บริหารระดับสูง เช่น “การอัดกรอบรูปคุณพ่อ” สมัยที่ท่านยังทำงานหรือเคยเป็นผู้บริหาร มาให้ท่านดูพร้อมกับชวนคุยว่า ท่านยังจำความทรงจำสมัย ตอนที่ทำงานที่นั่นที่นี้ได้หรือไม่? หรือท่านเคยทำเรื่องนั้นเรื่องนี้ได้หรือไม่? ก็จะทำให้ท่านนึกถึงบรรยายกาศเก่าๆและเรื่องราวๆดีในสิ่งที่เคยทำมาก่อนได้ พูดง่ายๆว่าเป็นการทวนความทรงจำที่ดี เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า มีกำลังใจในการใช้ชีวิต และรู้สึกปลื้มกับสิ่งดีๆที่ได้เคยทำให้ลูกหลาน และลูกหลานเองก็ไม่เคยลืมความรัก ความปราถนาดีที่คุณพ่อเคยทำให้ นับเป็นกิจกรรมส่งเสริมความผูกพันที่ดีในวันพ่อแห่งชาติค่ะ หรือหากใครที่ไม่เคยส่งการ์ดอวยพรวันพ่อให้ท่าน ก็สามารถ “ทำการ์ดวันพ่อ” ให้ท่านได้เช่นกัน เพราะมันจะทำให้คุณพ่อรู้สึกตื่นเต้นและแปลกใจ ถ้าหากว่าลูกทำอะไรกุ๊กกิ๊กน่ารัก และราคาไม่แพงให้ท่าน ”

ส่วนการดูแลภายนอก เพื่อเติมเต็มวันพิเศษนี้ให้อบอุ่นขึ้นไปอีกนั้น เช่น การเลือกของขวัญให้เหมาะกับคุณพ่อแต่ละช่วงวัย ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ แนะนำว่าหากเป็น “คุณพ่อวัย 50” แน่นอนว่าลูกๆจะอยู่ในช่วงวัย 20 ปีต้นๆ ซึ่งเด็กๆอาจจะยังไม่มีรายได้หรือมีรายได้น้อย เพราะพึ่งเรียนจบใหม่ แนะนำว่าให้เลือกของขวัญที่มีราคาย่อมเยา เช่น ผ้าเช็ดตัวผื่นใหม่ให้ท่าน ซึ่งจริงๆแล้วไม่ต้องเป็นของขวัญราคาแพง หรือเราอาจเคยเห็นเด็กๆเล็กๆที่เก็บเงินซื้อทองให้แม่ ตรงนี้ถ้าเด็กๆทำได้ก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้ายังทำไม่ได้ก็ไม่จำเป็น เพราะอันที่จริงการให้ของขวัญพ่อแม่ เราไม่จำเป็นต้องเลียนแบบใคร หรือ ถ้างบน้อยจริงๆสามารถซื้อ เสื้อยืด หรือ กางเกงขาสั้น แบบที่คุณเคยใส่ก็ได้เช่นกัน ส่วน “คุณพ่อวัย 60” อันนี้ต้องดูว่าชีวิตประจำวันของคุณพ่อวัยนี้เป็นอย่างไร เพราะบางคนอยู่ในวัยเกษียณราชการแล้ว ประกอบกับคนวัยนี้มักจะมีความอยากได้อยากมีลดน้อยลง ไม่เหมือนคุณพ่อวัยทำงาน ซึ่งคุณพ่อวัยนี้บางคน สามารถที่จะนุ่งผ้าขาวม้าอยู่บ้านได้ ก็สามารถที่จะซื้อของขวัญราคาย่อมเยาอย่าง ผ้าขาวม้าทำจากฝ้าฝ้ายให้ท่านได้ หรือบางคนชอบนุ่งกางยีนส์ ใส่รองเท้าผ้าใบ เพราะเป็นคุณพ่อสายชอบแต่งตัว ก็สามารถเลือกซื้อให้ท่านได้ มันอยู่ที่ความเหมาะสม

แต่หากเข้าสู่ “คุณพ่อวัย 70” ของขวัญที่ดีสำหรับคนวัยนี้ คือการพาท่านออกไปกินข้าวนอกบ้าน แต่ทั้งนี้ต้องเป็นร้านที่ท่านเคยกินหรือคุ้นเคย หรือเป็นร้านอาหารในตำนานที่ท่านเคยไปบ่อยๆ เช่น ร้านวิเศษไก่ย่าง หรือร้านเป็ดย่างพูนสิน เป็นต้น พูดง่ายๆว่าต้องเอาใจเขาเป็นเกณฑ์ ไม่ใช่เอาใจเราเป็นเกณฑ์ มันอยู่ที่ความสุขของคุณพ่อเราต้องให้ท่านได้เลือก เราจะเห็นว่าบางครั้งเด็กยุคใหม่ไม่เข้าใจ ว่าผู้สูงวัยชอบอะไร เพราะบ่อยครั้งที่เราจะเห็นลูกหลานวัยรุ่น พาคุณพ่ออายุมากไปรับประทานจิ้มจุ่ม ซึ่งบางครั้งผู้ใหญ่วัยนี้อาจจะไม่ชอบรับประทาน แต่ถ้าท่านชอบก็สามารถพาไปได้เช่นกัน ไล่มาถึง “คุณพ่อวัย 80” ซึ่งหากท่านยังสามารถเดินหรือเคลื่อนไหวได้ปกติ ลูกหลานก็สามารถพาท่านไปกินข้าวนอกบ้านได้ หรือไปไหว้พระ แต่หากท่านเดินไม่ไหวแล้ว ของขวัญที่ดีที่สุดคือการไปหาท่านที่บ้าน และซื้ออาหารที่ท่านชอบมารับประทานด้วยกัน กิจกรรมนี้จะทำให้ท่านรู้สึกว่าพ่อยังอยู่ในใจลูกๆเสมอ หรือหากลูกหลานมีรายได้ ก็สามารถให้เงินสดเพื่อไว้ใช้ได้ก็ได้เช่นกัน เพราะสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ใช่อาหารอร่อย หรือเงินสำหรับไว้ใช้จ่าย แต่เป็นความรักความห่วงหาอาทรที่ลูกๆมีต่อคุณพ่อ ซึ่งเป็นคนพิเศษในวันพิเศษเช่นนี้ค่ะ”
ทั้งกิจกรรมหรือแม้การเลือกของขวัญให้คุณพ่อ ในวันพ่อแห่งชาติที่จะมาถึงนี้ เป็นเพียงไกด์ไลน์ที่ช่วยกระชับความผูกพัน ของสมาชิกในครอบครัว เพราะจุดประสงค์ที่แท้จริงคือการกระตุ้นเตือนให้ลูกหลาน ระลึกนึกถึงพระคุณบิดา ผ่านการรวมตัวสังสรรค์ กินข้าวพูดคุย หรือหัวเราะร่วมกัน เพื่อเติมเต็มครอบครัวให้อบอุ่น และยกย่องคุณพ่อเป็นที่ 1 ในใจลูกๆ

Related Posts

Send this to a friend