CRIME

DSI เปิดปฏิบัติการ Electrical Shock ค้น 41 จุด พบ ลักลอบใช้ไฟฟ้า ขุดเงินดิจิทัลเลี่ยงภาษี

วันนี้ (30 พ.ย. 65) นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ เปิดยุทธการปราบโกงสายฟ้าฟาด หรือปฏิบัติการ “Electrical Shock” โดยสนธิกำลังร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมศุลกากร การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ต้องสงสัยลักกระแสไฟฟ้า เพื่อใช้เป็นจุดทำเหมืองขุดเงินดิจิทัล จำนวน 41 จุด ในพื้นที่นนทบุรีและกรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับคำร้องเรียนการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี มีการลักลอบตั้งเหมืองขุดเงินดิจิทัล โดยเฉพาะบิทคอยน์ โดยผิดกฎหมาย มีการนำเครื่องมือที่ใช้ในการขุดบิทคอยน์มาจากต่างประเทศ และมีการลักลอบใช้กระแสไฟฟ้า ทำให้ประเทศได้รับความเสียหาย

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงมอบหมายให้กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศเป็นหน่วยงานรับผิดชอบสืบสวน โดยประสานกับการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และกรมศุลกากร จนพบจุดต้องสงสัย กระจายตัวในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

สำหรับการทำเหมืองขุดบิทคอยน์ดังกล่าว ใช้กระแสไฟฟ้าในปริมาณมากขนาดเทียบเท่ากับโรงงานอุตสาหกรรม มีการลักลอบต่อไฟตรงโดยไม่ผ่านมิเตอร์วัดไฟ อันเป็นการลักกระแสไฟฟ้า เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา และอาจมีความผิดอาญาอื่นที่เกี่ยวข้องอีกหลายฐานความผิด

กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ สืบสวนจนพบกลุ่มนายทุนที่มีพฤติการณ์จัดหาอาคารพาณิชย์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีกว่า 41 แห่ง เช่าไว้เพื่อใช้เป็นจุดวางเครื่องขุดเงินดิจิทัล โดยแต่ละอาคารจะวางเครื่องขุด จุดละประมาณ 100 เครื่อง มีการลักลอบต่อไฟตรงเข้าตัวอาคารโดยไม่ผ่านมิเตอร์วัดไฟ ทำให้เสียค่าไฟฟ้าต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างมาก จากที่ต้องเสียค่าไฟฟ้าประมาณเดือนละ 500,000 บาทต่อแห่ง เหลือเพียงแห่งละประมาณ 300 – 2,000 บาทเท่านั้น ทำให้การไฟฟ้านครหลวงเสียหายกว่า 20 ล้านบาทต่อเดือน หรือปีละเกือบ 300 ล้านบาท

กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลอาญาเพื่อเข้าค้นอาคารพาณิชย์ต้องสงสัย จำนวน 41 แห่ง เพื่อแสวงหาพยานหลักฐานการลักไฟฟ้า ก่อนกล่าวโทษดำเนินคดีอาญา และร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ยึดเครื่องขุดเงินดิจิทัลกว่า 2,000 ตัว มูลค่ารวมกว่า 400 ล้านบาท ไว้เพื่อตรวจสอบ รวมทั้งตรวจสอบกับกรมศุลกากรว่ามีการนำเข้าราชอาณาจักรไทย โดยผ่านพิธีการทางศุลกากร โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากเข้าข่ายการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษ ก็จะได้รับคดีดังกล่าวไว้ทำการสอบสวนต่อไป

จากการสืบสวนขยายผล ยังพบว่า ปัจจุบันมีการลักลอบใช้กระแสไฟฟ้าเพื่อทำเหมืองขุดเงินดิจิทัลจำนวนมากในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยนำเข้าเครื่องขุดเงินดิจิทัลมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากสาธารณรัฐประขาชนจีน นำมาติดตั้งในอาคารพาณิชย์ที่มีค่าเช่าในราคาไม่สูงนัก จากนั้นจะทำการลักลอบต่อไฟตรงเข้าตัวอาคาร เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าในการขุดเงินสกุลดิจิทัล โดยปล่อยให้เครื่องขุดเปิดทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีผู้พักอาศัยในอาคารแต่อย่างใด

การกระทำดังกล่าว นอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังทำให้เสี่ยงเกิดอัคคีภัย เนื่องจากเหมืองขุดเงินสกุลดิจิทัลใช้ไฟฟ้าสูงเทียบเท่ากับการใช้ไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้เกิดความร้อนสูง เป็นการใช้อาคารพาณิชย์ผิดประเภท กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังเจ้าของอาคารพาณิชย์ หรือผู้ที่อยู่อาศัยในอาคารพาณิชย์ต่างๆ ให้ช่วยกันสังเกตบริเวณโดยรอบ หากพบสถานที่ต้องสงสัย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้ามีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น กรมสอบสวนคดีเศษจะดำเนินการสืบสวนขยายผลต่อไป

Related Posts

Send this to a friend