HEALTH

สธ.กำชับ รพ. เลี่ยงสั่งจ่ายยากลุ่มเอ็นเสด ลดความเสี่ยงผู้ป่วยไข้เลือดออกเสียชีวิต

วันนี้ (27 ก.ค. 66) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กำชับโรงพยาบาลเลี่ยงสั่งจ่ายยากลุ่มเอ็นเสดในผู้ป่วยมีอาการไข้ ซึ่งอาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคไข้เลือดออก ที่วินิจฉัยแยกจากโรคอื่นที่ได้ยาก เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ หรือโรคฉี่หนู เพื่อลดความเสี่ยงผู้ป่วยไข้เลือดออก เสียเลือดจนช็อกและทำให้เสียชีวิต และกำชับโรงพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ หากผู้ป่วยมีไข้และยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจน หรืออาการยังไม่ดีขึ้น ขอให้ผู้ป่วยกลับไปพบแพทย์อีกครั้ง พร้อมกันนี้ชี้การประกาศพื้นที่ระบาด เป็นการพิจารณาของแต่ละพื้นที่ หากเห็นว่าการระบาดมากจนทรัพยากรในพื้นที่ไม่เพียงพอ ต้องบูณาการการทำงาน หรือใช้งบประมาณพิเศษ

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ กล่าวว่า “สถานการณ์โรคไข้เลือดออก ขณะนี้มีผู้ป่วยมากกว่า 4 หมื่นคน เสียชีวิต 40 กว่าคน เป็นกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไปมากกว่าเด็กเล็ก โดยพบว่าผู้เสียชีวิตประมาณ 10% มีการกินยาแอสไพริน หรือยาลดไข้แก้ปวดกลุ่มเอ็นเสด เช่น ไอบูโพรเฟน เป็นต้น ซึ่งทำให้เกล็ดเลือดทำงานผิดปกติ เพิ่มความเสี่ยงให้เลือดออกง่ายจนช็อกและเสียชีวิต ดังนั้นหากมีไข้ คลื่นไส้อาเจียน ปวดจุกแน่นในท้อง ซึ่งเป็นอาการเริ่มต้นของโรคไข้เลือดออก ที่วินิจฉัยแยกจากโรคอื่นที่ได้ยาก เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ หรือโรคฉี่หนู ขอให้ระมัดระวังไม่ซื้อยาเหล่านี้มารับประทาน ทั้งนี้ ได้กำชับโรงพยาบาลและบุคลากรแล้วว่า หากผู้ป่วยมีไข้และยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจน ให้หลีกเลี่ยงการจ่ายยากลุ่มเอ็นเสด และหากอาการยังไม่ดีขึ้นขอให้กลับไปพบแพทย์อีกครั้ง”

“สำหรับการประกาศพื้นที่ระบาด โรคไข้เลือดออกหรือโรคอื่นใด หากพื้นที่เห็นว่าการระบาดมากจนทรัพยากรในจังหวัดหรือพื้นที่นั้น ไม่เพียงพอรับสถานการณ์ เช่น ขาดงบประมาณ ขาดยา ขาดบุคลากร หรือจำเป็นต้องใช้งบประมาณพิเศษ หรือต้องมีการบูรณาการพิเศษ ก็ให้เสนอเรื่องถึงอธิบดีกรมควบคุมโรคพิจารณา โดยใช้กลไกคณะกรรมการวิชาการออกประกาศ ซึ่งสามารถประกาศระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ หรือทั้งจังหวัดก็ได้ เพื่อให้มีอำนาจในการดำเนินการควบคุมโรคมากขึ้น รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถใช้งบประมาณ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ เนื่องจากโรคระบาดในคน ถือเป็นสาธารณภัยรูปแบบหนึ่ง”

Related Posts

Send this to a friend