HEALTH

กรมอนามัย-GISTDA เปิดตัว Application Life Dee ช่วยเตือน PM2.5

รับการปรับเกณฑ์มาตรฐานค่าฝุ่นใหม่ พร้อมด้วยฟังก์ชันตรวจเช็กสุขภาพ-ประเมินอาการและพฤติกรรม จากการสัมผัสมลพิษ

วันนี้ (25 ก.ย. 66) นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย พร้อมด้วย ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ และภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เปิดตัว Mobile application ‘Life Dee’ เพื่อช่วยเตือนค่าฝุ่น PM2.5 ที่มากกว่า 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามค่ามาตรฐานใหม่ของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ผ่านทางมือถือและ Smart watch และมีฟังก์ชันตรวจเช็กสุขภาพ การดูแลปฏิบัติตน เช่น แบบประเมินอาการและพฤติกรรม จากการรับสัมผัสฝุ่น รวมถึงแผนที่สถานบริการสาธารณสุขห้องปลอดฝุ่น ที่สามารถค้นหาเส้นทางการไปใช้บริการได้

นายแพทย์อรรถพล กล่าวว่า จากสถานการณ์สิ่งแวดล้อม ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และวิถีชีวิตของประชาชน กรมอนามัยซึ่งมีภารกิจหลักในการส่งเสริม ให้ประชาชนมีสุขภาพดี จึงร่วมกับ GISTDA หน่วยงานที่มีความสำคัญ ในการผลิตข้อมูลภูมิสารสนเทศ สำหรับการศึกษาวิจัย คาดการณ์ เตรียมการและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ เพื่อยกระดับให้ประชาชนมีความรู้ และทักษะอย่างถูกต้องและเท่าทัน จากการลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ ว่าด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศ และภูมิสารสนเทศที่ผ่านมา กรมอนามัยและหน่วยงานสาธารณสุขในระดับพื้นที่ ได้นำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ ในการกำหนดนโยบาย การวางแผน และการตัดสินใจจัดการปัจจัย เสี่ยงต่อสุขภาพในระดับพื้นที่

สำหรับ “Application Life Dee ถือเป็นความร่วมมือล่าสุด ระหว่างกรมอนามัย และ GISTDA ในการพัฒนาแพลตฟอร์มที่มีฟังก์ชัน การดูแลและป้องกันสุขภาพที่หลากหลาย ดังนี้”

1.ข้อมูลสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 PM10 ข้อมูลปริมาณฝนและอุณหภูมิ
2.ข้อมูลสุขภาพ เช่น คำแนะนำในการปฏิบัติตนสำหรับประชาชน แบบประเมินอาการและพฤติกรรมจากการรับสัมผัสฝุ่น
3.ห้องปลอดฝุ่น แผนที่สถานบริการสาธารณสุข ที่สามารถค้นหาเส้นทางการไปใช้บริการได้
4.สาระความรู้เกี่ยวกับฝุ่นและสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนสามารถป้องกันตนเองเบื้องต้น และวางแผนกิจกรรมประจำวันได้

“ทั้งนี้ Application ‘Life Dee’ จะแจ้งเตือนเมื่อฝุ่น PM2.5 มากกว่า 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามค่ามาตรฐานใหม่ของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ผ่านทางมือถือและ Smart watch ซึ่งจะช่วยป้องกันผลกระทบ ต่อสุขภาพประชาชนมากยิ่งขึ้น” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ด้าน ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า GISTDA กับ กรมอนามัย ได้บูรณาการงานด้านเทคโนโลยีอวกาศ และภูมิสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการวิจัย พัฒนา และการบริการด้านสาธารณสุขเชิงพื้นที่ รวมถึงร่วมกันผลักดัน และสนับสนุนการดำเนินงาน ภายใต้ภารกิจของกรมอนามัยในด้านต่างๆ ทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูล ด้านสาธารณสุข ข้อมูลภูมิสารสนเทศ และข้อมูลสภาพภูมิอากาศ รวมถึงนวัตกรรมและองค์ความรู้ ภายใต้โครงการพัฒนานวัตกรรมภูมิสารสนเทศ ต่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เพื่อสุขภาวะที่ยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาศักยภาพบุคลากรทั้งสองฝ่าย ในด้านเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ และด้านสาธารณสุขอีกด้วย ซึ่งความร่วมมือกันในวันนี้ก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อประเทศอย่างแท้จริง

เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทย ยังประสบปัญหาด้านมลพิษทางอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภา พของคนในชุมชนเมือง การพัฒนา Application ‘Life Dee’ จึงเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คนไทย สามารถตรวจเช็กสุขภาพของตนเอง ค้นหาสถานบริการสุขภาพ ข้อมูลปริมาณฝุ่นในอากาศ ตลอดจนแผนที่แสดงแบบจำลอง สถานการณ์ฝุ่นภายใต้ภูมิอากาศจุลภาค (microclimate) ทั้งนี้กรมอนามัย สามารถนำแพลตฟอร์มดังกล่าว ไปใช้ในการบริหารจัดการมลพิษทางอากาศ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะของประชาชนได้อีกด้วย และหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นในการผลักดัน การใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ กับข้อมูลด้านสาธารณสุขให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

Related Posts

Send this to a friend