DEEPSOUTH

คนร้ายขว้างไปป์บอมบ์ และยิงถล่ม นปพ.นราธิวาส 33 จนท.บาดเจ็บ 4 นาย

คนร้ายเกือบ 20 คน ลอบวางระเบิด ขว้างไปป์บอมบ์ และยิงถล่มหน่วยปฏิบัติการพิเศษนราธิวาสที่ 33 จนท.ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย

เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (29 เม.ย. 67) พ.ต.อ.เจษฎาวิทย์ อินทร์ประพันธ์ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก ร.อ.พงศกร เทพษร ผบ.ร้อย ปชด.ที่ 3 ร.ท.กลวัชร ตาวง ผบ.ร้อยปืนเล็กที่ 4 เจ้าหน้าที่ชุดก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธร จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเดินทางตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดและขว้างไปป์บอมบ์รวมทั้งใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษนราธิวาส 33 ที่บริเวณทางออกฐานปฏิบัติการฯ ตั้งอยู่บ้านกวาลอซีรา หมู่ 7 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก เหตุเกิดเมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 29 เม.ย. 67 ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย

จุดแรกพบที่โคนเสาไฟฟ้าด้านขวาทางออกของฐานฯ เสาไฟฟ้าหัก 1 ต้น และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบในถังแก๊สปิคนิคหนัก 25 กก. ไม่ทราบตัวจุดชนวน ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน และห่างจากโคนเสาไฟฟ้าประมาณ 15 เมตร พบรถยนต์กระบะหุ้มเกราะสี่ประตู ยี่ห้ออีซูซุ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นรถของเจ้าหน้าที่ นปพ.นราธิวาสที่ 33 เสียหลักตกไหล่ถนน อยู่ในสภาพถูกกระสุนปืนและสะเก็ดระเบิดเป็นรูพรุนเกือบทั้งคัน

นอกจากนี้ที่บริเวณรอบจุดเกิดเหตุที่ 1 เจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมที่ตกอยู่ทั่วบริเวณจำนวนกว่า 10 จุด และพบระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมของคนร้ายที่ไม่ทำงานตกอยู่บนถนนทางเข้าฐานฯ จำนวน 3 ลูก เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้เครื่องแรงดันน้ำพลังสูงในการยิงทำลาย

จุดที่ 2 บริเวณถนนสายตากใบ-สุไหงโกลก เยื้อง สำนักงานขนส่งนราธิวาส สาขาสุไหงโกลก ซึ่งห่างจากจุดแรก 800 เมตร คนร้ายได้โปรยตะปูเรือใบ และเผายางรถยนต์สกัดกั้นเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าสนับสนุน จุดที่ 3 ซึ่งห่างจากจุดที่ 2 บนถนนสายเดียวกันประมาณ 1 กม. คนร้ายได้โปรยตะปูเรือใบในการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ที่จะให้การสนับสนุนช่วยเหลือ และจุดที่ 4 บริเวณป่ารกทึบตรงข้ามประตูทางออกจุดเกิดเหตุที่ 1 ซึ่งมีแม่น้ำสุไหงโกลก เป็นเส้นแบ่งพรมแดนไทย-มาเลเซีย เจ้าหน้าที่พบร่องรอยของคนร้ายที่ใช้เส้นทางดังกล่าวมาบุกโจมตีเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีกิ่งไม้หักและรอยเท้าเป็นทางยาวจำนวนมาก และพบปลอกกระสุนปืนสงครามเอ็ม 16 ตกอยู่จำนวนกว่า 50 ปลอก รวมทั้งสลักนิรภัยของระเบิดไปป์บอมบ์ตกอยู่จำนวนหนึ่ง จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุคนร้ายจำนวนเกือบ 20 คน ได้แยกกำลังออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ กลุ่มที่ 1 ได้ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ที่บริเวณเสาไฟฟ้าหน้าประตูทางออกของฐานฯ ด้วยการนำไปวางไว้ที่โคนเสาไฟฟ้า แต่ด้วยความเร่งรีบคนร้ายได้จุดชนวนระเบิดก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.นราธิวาสที่ 33 จำนวน 4 นายที่นั่งรถยนต์กระบะสี่ประตูเพื่อไปสับเปลี่ยนเวรยามที่จุดตรวจน้ำตก ทำให้เกิดระเบิดขึ้นก่อนที่รถยนต์ของเจ้าหน้าที่จะแล่นผ่าน แต่ด้วยความตกใจเจ้าหน้าที่จึงขับรถตกไหล่ทาง จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 ยิงถล่มใส่และเจ้าหน้าที่ที่ฐานฯ ได้ออกมาสนับสนุนจึงถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่พร้อมทั้งขว้างระเบิดไปป์บอมบ์เพื่อสกัดกั้นการช่วยเหลือ จนกระทั่งสองฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกันเป็นเวลา 15 นาที ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.นราธิวาส 33 ที่นั่งมาบนกระบะได้รับบาดเจ็บ 4 นาย จากลวดหนามที่ประตูทางออกเกี่ยวตามร่างกายขณะยิงต่อสู้กับกลุ่มคนร้าย

นอกจากนี้คนร้ายกลุ่มที่ 2 และ 3 ได้โปรยตะปูเรือใบเพื่อสกัดการการสนับสนุนให้การช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มูโนะ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโกลก รวมทั้ง เจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ใกล้เคียงเข้าให้การช่วยเหลือ ส่วนคนร้ายกลุ่มที่ 4 ยืนคุมเชิงและบล็อกเส้นทางอยู่ที่บริเวณทางเข้าของฐานปฏิบัติการเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตีวงโอบล้อมมาให้การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ 4 นายที่ถูกลอบวางระเบิดและยิงถล่ม ซึ่งก่อนหลบหนีคนร้ายชุดที่ 4 ได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อเป็นสัญญาณให้กลุ่มคนร้ายทั้งสามกลุ่มถอนกำลังเพื่อหลบหนี โดยคนร้ายกลุ่มที่ 1 ได้หลบหนีข้ามแม่น้ำสุไหงโกลก ไปยังประเทศมาเลเซีย ส่วนคนร้ายกลุ่มที่ 2-4 ได้หลบหนีด้วยรถจักรยานยนต์ที่เตรียมมาโดยชาวบ้านละแวกจุดเกิดเหตุพบเห็นร้ายแต่งกายด้วยชุดสีดำมีอาวุธปืนครบมือหลบหนีไปทาง อ.ตากใบ

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 นาย ถูกส่งตัวรักษาที่ รพ.สุไหงโกลก ในช่วงคืนที่ผ่านมาซึ่งมีอาการหูอื้อ แน่นหน้าอก และมีรอยรั้วลวดหนามขีดข่วนตามร่างกาย ประกอบด้วย

1.ส.ต.ท สัตดุสิต สมกำลัง (โดนลวดหนาม) อายุ 29 ปี

2.ส.ต.ท พีรชัช เข็มเพ็ชร์ อายุ 27 ปี

3.ส.ต.ต ชนินทร์ บุญสนอง (โดนลวดหนาม) อายุ 26 ปี

4.ส.ต.ท ณัฐภัทร ทิตย์พรมทอง อายุ 26 ปี

และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้มีคำสั่งให้มีการปิดช่องทางข้ามพรมแดนทางธรรมชาติในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก รวมทั้งเขตรอยต่อ อ.ตากใบ และ อ.แว้ง ทั้งหมดเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารชุดควบคุมและป้องกันชายแดนในพื้นที่ อ.ตากใบ อ.สุไหงโกลก และ อ.แว้ง ลงลาดตระเวนควบคุมพื้นที่รวมทั้งลาดตระเวนตรวจสอบเส้นทางที่กลุ่มคนร้ายลอบข้ามแดนเข้ามาเคลื่อนไหวก่อเหตุร้าย ซึ่งเป็นมาตรการป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย

Related Posts

Send this to a friend