HEALTH

สจล.เปิดตัว อาหารผงแบบฟรีซดรายเพื่อผู้สูงวัย ทั้งแบบชงดื่ม-ป้อนผ่านสายยาง รับสังคมสูงวัย

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดยคณะอุตสาหกรรมอาหารและ คณะแพทยศาสตร์ สร้างสรรค์นวัตกรรมอาหารทางการแพทย์ เพื่อรองรับสังคมสูงวัย คิดค้นนวัตกรรม ‘อาหารผงแบบฟรีซดรายเพื่อผู้สูงวัย’ (Powdered Enteral Feeding for Aging Society) ปลอดภัย มีคุณภาพและคุณค่าโภชนาการ เก็บรักษาได้ยาวนานกว่า 6 เดือน ไร้สารกันเสีย เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้สูงวัยให้มีสุขภาพดี พร้อมกันนี้เตรียมขยายเฟส 2 ร่วมมือภาคอุตสาหกรรม เพื่อผลิตเชิงพาณิชย์ ตอบสนองตลาดในประเทศและส่งออก

รศ.ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า “ด้วยวิสัยทัศน์ สจล.ที่มุ่งเป็นผู้นำนวัตกรรมระดับโลก เพื่อคนไทยและมนุษยชาติ เราได้เล็งเห็นว่านับแต่ปี 2565 ประเทศไทย ได้กลายเป็นสังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Complete Aged Society) โดยมีประชากรอายุมากกว่า 60 ปี จำนวน 12.9 ล้านคน หรือ 20% ของประเทศ และอีก 15 ปีข้างหน้า ไทยจะเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอด (Super Aged Society) ผู้สูงวัยจะมีสัดส่วน 28% ของประชากรทั้งหมด”

“ความสำคัญของการพัฒนาอาหารผง สำหรับชงดื่ม หรือป้อนผ่านสายยาง มุ่งรองรับสังคมสูงวัย จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่ผู้บริโภค และผู้ที่เกี่ยวข้องกับระบบห่วงโซ่อาหารต้องคำนึงถึง เนื่องด้วยการทำงานของระบบการย่อยอาหาร ของคนสูงวัยที่อ่อนแอลง หรือลูกหลานอยู่ห่างไกลขาดคนดูแลโภชนาการ ทีม 5 นักวิจัยคณะอุตสาหกรรมอาหาร และคณะแพทยศาสตร์ สจล.ประกอบด้วย รศ.ดร.นภัสรพี เหลืองสกุล,ดร.อรชร เมฆเกิดชู,นพ.อนวัช เสริมสวรรค์,ผศ.ดร.คริษฐา อิ่มเอิบ และ Assist. Prof. Dr. Sri Charan Bindu Bavisetty ตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุด้วยนวัตกรรม ‘อาหารผงแบบฟรีซดรายเพื่อผู้สูงวัย’ โดยบูรณาการองค์ความรู้ 3 สาขา ได้แก่ เทคโนโลยีอุตสาหกรรมอาหาร การแพทย์ และโภชนาการ ในแนวคิดที่จะผลิต ‘อาหารสายยางชนิดผง’ ที่เป็นแบรนด์ของไทย ลดการนำเข้า ช่วยเพิ่มโอกาสสร้างมูลค่า เพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยผ่านการใช้นวัตกรรม โดยงานวิจัยนี้ได้รับการสนับสนุน จากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)”

ด้าน รศ.ดร.นภัสรพี เหลืองสกุล หัวหน้าโครงการวิจัย และคณบดี คณะอุตสาหกรรมอาหาร สจล. กล่าวว่า “โดยทั่วไปอาหารทางสายยาง แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.อาหารปั่นผสม (Blenderized Diet) ที่ต้องทำสดโดยฝ่ายโภชนาการในโรงพยาบาล ซึ่งมีอายุการใช้งานวันต่อวัน ไม่สามารถเก็บได้นาน มีปัญหาเรื่องความข้นหนืด ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เป็นสาเหตุทำให้ฟื้นตัวได้ช้า 2.อาหารสำเร็จรูปทางการแพทย์ (Commercial Formular) ผลิตภัณฑ์อาหารในรูปผงที่ใช้ละลายน้ำ เป็นโภชนบำบัดสำหรับผู้สูงอายุเฉพาะโรค ถ้าเป็นการนำเข้าจะมีราคาสูง”

“ทีมวิจัย สจล.มีแนวคิดสร้างสรรค์อาหารแบบผง ด้วยเทคโนโลยีฟรีซดราย (Freeze Drying) สำหรับการบริโภคโดยชงดื่ม หรือละลายน้ำป้อนให้ผ่านสายยาง (Nasogastric Tube Feeding) ซึ่งเป็นการป้อนอาหารผ่านสายยางทางรูจมูก ลงไปยังกระเพาะอาหาร สำหรับผู้สูงวัยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้ แต่ระบบทางเดินอาหารยังทำงานปกติ ทีมวิจัยได้พัฒนาการเตรียมอาหารปั่นสด 7 สูตร ส่วนประกอบเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ ที่มีแหล่งโภชนาการที่แตกต่างกัน แปรผันแหล่งของโปรตีนในสูตรอาหาร ได้แก่ เนื้อไก่ เนื้อปลา ถั่วเหลืองผง และเวย์โปรตีน รวมถึงส่วนประกอบต่างๆ เช่น แหล่งใยอาหารจากผักและผลไม้ เป็นต้น โดยมีการคำนวณสูตรอาหารทางสายยาง ให้มีการกระจายพลังงาน ที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย”

“ขั้นตอนการผลิต อาหารผงแบบฟรีซดราย (Freeze Drying) มีส่วนประกอบจากแหล่งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ใยอาหาร วิตามิน เกลือแร่ นำวัตถุดิบทั้งหมดหั่น เพื่อลดขนาดวัตถุดิบและทำให้สุก ผสมวัตถุดิบเข้าด้วยกันตามสัดส่วน โดยเติมน้ำปั่นวัตถุดิบจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นแปรรูปด้วยเทคโนโลยี Freeze Drying ทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง โดยดึงความชื้นหรือน้ำออกจากอาหาร ซึ่งเป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุดเนื่องจากคงคุณค่าทางโภชนาการ มีสีสันตามธรรมชาติ ลดการทำลายเนื้อเยื่อและโครงสร้างสารอาหาร ทำให้อาหารผงมีคุณภาพ จากนั้นนำไปปั่นละเอียดเป็นผงตามขนาดที่กำหนดและบรรจุแพ็คสำหรับการบริโภค”

“ผลการวิจัยพบว่า ในจำนวน 7 สูตร “อาหารแบบฟรีซดราย” สูตร BD1 เหมาะกับผู้สูงอายุมากที่สุด เนื่องจากคุณภาพมีความหนืด (Viscosity) ที่เหมาะสม และความสะดวกในการใช้งานเพียงละลายในน้ำ ก็ทำให้อาหารลื่นไหลผ่านสายยางได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่ตกตะกอน ช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ของอาหารฟรีซดรายแบบผงใน 1 มื้ออาหารมีปริมาณ 150 กรัม ละลายน้ำที่ 600 มิลลิลิตร ให้พลังงานจากโปรตีนร้อยละ 10-20 ไขมันร้อยละ 25-30 คาร์โบไฮเดรตร้อยละ 50-55 และใยอาหารร้อยละ 57.94 ให้พลังงาน 689.85 kcal เมื่อรับประทาน 3 มื้อ จะให้พลังงาน 2,069 kcal ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายต่อวัน ที่สำคัญยังใช้วัตถุดิบทั้งหมดในประเทศ ต้นทุนการผลิตในระดับห้องปฏิบัติการต่ำ เฉลี่ยกรัมละ 0.22 บาท และมีราคาต้นทุนผลิตภัณฑ์ อาหารสายยางแบบผงเฉลี่ยมื้อละ 33.30 บาท”

“จุดเด่นและประโยชน์ของนวัตกรรม การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทางสายยางชนิดผง ในประเทศไทย จะช่วยให้ผู้สูงอายุเข้าถึงอาหารแบบผง ที่มีคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า ด้านกระบวนการผลิตแบบ Freeze Drying มีประสิทธิภาพช่วยให้สามารถ คงคุณค่าทางโภชนาการได้ครบถ้วน เก็บรักษาได้นาน 6 เดือนขึ้นไป โดยไม่มีวัตถุกันเสีย มีน้ำหนักเบา ประหยัดค่าขนส่ง เสริมสุขภาพผู้สูงวัยตามหลักการแพทย์ โดยไม่เสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลสูงในโลหิต หรือ เบาหวาน”

“นับเป็นต้นแบบของการพัฒนา การเตรียมอาหารทางสายยางแบบผง ที่ถูกต้องตามหลักการปฏิบัติที่ดี เพิ่มความปลอดภัย ลดโอกาสปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ สะดวกในการดูแลผู้สูงอายุ และได้รับสารอาหารตามแผนการรักษาของแพทย์ ทดแทนการนำเข้า สามารถบริโภคได้ 2 วิธี คือ 1.ชงดื่มแทนมื้ออาหารหลัก ในผู้สูงวัยที่เบื่ออาหาร หรือทานอาหารได้น้อย หรือไม่มีเวลาหรือความพร้อมในการเตรียมอาหารที่มีคุณภาพ 2.ป้อนอาหารทางสายยาง ซึ่งความหนืดของอาหารผงเหมาะสม ช่วยให้ละลายน้ำง่ายและดูดซึมได้ดี”

สำหรับแผนงานในอนาคต คณะอุตสาหกรรมอาหาร สจล.เตรียมแผนสู่เฟส 2 การผลิตในเชิงพาณิชย์ ปัจจุบันเปิดให้เอกชนผู้สนใจลงทุน เพื่อขยายสู่ระดับอุตสาหกรรม นำองค์ความรู้ไปต่อยอดระบบการผลิตในเชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างเป็นแบรนด์ของคนไทย ที่สามารถกระจายผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ได้กว้าง ทั้งโรงพยาบาลและในครัวเรือน (Home-Use) ซึ่งจะทำให้ราคาของผลิตภัณฑ์ยิ่งถูกลง นอกจากนี้ยังสามารถนํางานวิจัยต้นแบบ ไปพัฒนาอาหารสูตรอื่นๆ สำหรับผู้ป่วยเฉพาะโรค หรือพัฒนาในด้านรสชาติ และเนื้อสัมผัสสำหรับให้เป็น อาหารการแพทย์ทางเลือก เพื่อคุณภาพชีวิตของคนไทยอีกด้วย

Related Posts

Send this to a friend