HEALTH

เตือนระวังไข้เลือดออก หลังพบผู้ป่วยมากกว่าปีที่แล้ว 5 เท่า ห่วงเพิ่มสูงขึ้นอีก

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยสถิติ การเฝ้าระวังสถานการณ์โรคไข้เลือดออก ในปี 2566 (1 ม.ค.- 1 ก.พ.) พบผู้ป่วย 2,683 ราย อัตราป่วย 4.05 ประชากรแสนคน เสียชีวิต 1 ราย โดยพบมากที่สุดในกลุ่มเด็ก 5-14 ปี และพบมากที่สุดในภาคกลาง (กรุงเทพมหานครมากที่สุด) โดยจำนวนผู้ป่วยในช่วงนี้ มากกว่าปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกันถึง 5 เท่า

กรมควบคุมโรค ระบุว่า การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพของสัปดาห์นี้ คาดว่ามีแนวโน้มพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้น เนื่องจากโรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่ไวต่อสภาพอากาศจากอุณหภูมิและปริมาณน้ำฝน ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา สัปดาห์นี้พบว่า สภาพอากาศของประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย และฝนตกหนักในบางพื้นที่ ทำให้ภาชนะต่างๆ หรือเศษขยะ มีนำฝนท่วมขังอยู่ เช่น ฝาขวด แก้วพลาสติก ถุงพลาสติก เศษกระถาง ซึ่งน้ำที่ท่วมขังเป็นน้ำนิ่งและค่อนข้างสะอาดที่ยุงลายชอบวางไข่ โดยไข่ของยุงลายจะยึดติดแน่นกับขอบผิวภาชนะเหนือระดับน้ำเล็กน้อย สามารถอยู่ได้นานเป็นปี เมื่อมีน้ำท่วมถึงสามารถฟักตัวเป็นระยะตัวเต็มวัยในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ และเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น จะทำให้ยุงลายตัวเต็มวัยออกหากินในช่วงกลางคืนมากขึ้น

พร้อมกันนี้ กรมควบคุมโรค ยังได้แนะนำ ประชาชนให้สังเกตอาการของตนเองและคนในครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังหากมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ไข้นานเกินกว่า 2 วัน อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย เบื่ออาหาร หน้าตาแดง อาจมีผื่นขึ้นที่ผิวหนังตามแขน ขาข้อพับ ให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม และข้อเน้นย้ำว่าไม่ซื้อยากินเอง เนื่องจากยาลดไข้บางประเภทอาจทำให้มีอาการรุนแรงและเลือดออกมากขึ้น รักษายากขึ้นจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ สำหรับร้านขายยาและคลินิก ควรแนะนำให้ผู้ป่วยสงสัยโรคไข้เลือดออก ให้ไปรักษาที่โรงพยาบาล หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

Related Posts

Send this to a friend