HEALTH

กรมควบคุมโรค เตือนประชาชน เพิ่มความระมัดระวังช่วงหน้าฝน

เสี่ยงอุบัติเหตุจากถนนลื่นและน้ำท่วมขัง หมั่นตรวจสอบสภาพรถก่อนใช้งาน พร้อมแนะ 7 เทคนิคขับขี่ปลอดภัย

วันนี้ (11 ก.ค. 66) นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยข้อมูลเนื่องจากในช่วงนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝน จึงทำให้การสัญจรบนท้องถนน เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เนื่องจากถนนลื่น และทัศนวิสัยทัศการขับขี่ไม่ดี และหากย้อนหลังสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนน บนโครงข่ายถนนของกระทรวงคมนาคม (ทางหลวง ทางหลวงชนบท และทางด่วน) ระหว่างปี 2563-2565 ภายในระยะเวลา 6 เดือน หรือตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝน พบว่ามีการเกิดอุบัติเหตุ 23,077 ครั้ง บาดเจ็บ 10,544 ราย เสียชีวิต 2,764 ราย พร้อมกันนี้ได้แนะ 7 วิธีขับขี่ปลอดภัยช่วงฝนตก และมีน้ำท่วมขังบนถนน

นายแพทย์ธเรศ กล่าวว่า “ขอให้ประชาชนที่ขับขี่ยานพาหนะ บนท้องถนนในช่วงฝนตก เพิ่มความระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษ โดยการตรวจสอบสภาพรถและอุปกรณ์ ให้พร้อมต่อการใช้งานในฤดูฝน เช่น ที่ปัดน้ำฝน ระบบไฟฟ้า ระบบยาง ระบบเบรก และไม่ควรขับรถเร็วขณะฝนตก หรือถนนเปียก โดยเฉพาะช่วงที่ฝนตก 10 นาทีแรก เป็นช่วงที่รถมีโอกาส เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด จากการลื่นไถล เพราะน้ำฝนจะชะล้างคราบน้ำมันและฝุ่นละออง ที่ติดอยู่บนพื้นถนน ทำให้เกิดเป็นเสมือนแผ่นฟิล์มฉาบอยู่บนผิวถนน อาจส่งผลให้รถลื่นและเสียหลักจนเกิดอุบัติเหตุได้”

ด้าน นายแพทย์ดิเรก ขำแป้น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า “ทั้งนี้จึงขอแนะนำขณะขับขี่
ควรปฏิบัติตาม 7 วิธีในการขับขี่ให้ปลอดภัยช่วงฝนตก และมีน้ำท่วมขังบนถนน ดังนี้”
1.เพิ่มความระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ โดยลดความเร็วลงกว่าระดับปกติ เนื่องจากพื้นถนนที่เปียก รถจะใช้ระยะเบรกเพิ่มขึ้น และควรใช้ความเร็วที่เหมาะสมไม่เกิน 30-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะช่วยให้สามารถควบคุมรถ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.เปิดไฟหน้ารถเสมอ ใช้ไฟต่ำจะช่วยให้เรามองเห็นสิ่งต่างๆ บนถนนได้ชัดเจนขึ้น และให้รถคันอื่นมองเห็นรถของเราได้ในระยะไกล

3.เปิดใบปัดน้ำฝน ปรับระดับความเร็วของใบปัดน้ำฝน ให้สัมพันธ์กับความแรงของฝน ที่ตกลงมา จะช่วยให้เรามองเห็นเส้นทางได้ตลอดเวลา

4.เว้นระยะห่างจากท้ายรถคันหน้า ให้มากกว่าปกติอย่างน้อย 10-15 เมตร เพื่อให้มีระยะเบรกที่เพียงพอและปลอดภัย

5.หลีกเลี่ยงการแซง แต่หากจำเป็นควรประเมินสถานการณ์ให้ดีก่อนแซง

6.ในกรณีที่รถลื่นไถลหรือเหินน้ำ ไม่ควรเหยียบเบรกจนล้อหยุดหมุนทันที อาจทำให้รถพลิกคว่ำได้ ควรใช้เกียร์ต่ำและค่อยๆเบรก เพื่อลดความเร็ว แล้วจึงค่อยเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ

7.เมื่อต้องขับรถผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขัง ขอให้หยุดประเมินสถานการณ์ หากระดับน้ำสูงกว่า
ขอบประตูรถ ไม่ควรขับฝ่าไป ควรเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน

หากประชาชนพบเห็นผู้บาดเจ็บ จากอุบัติเหตุทางถนน ไม่ควรเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ อาจทำให้เกิดอันตรายแทรกซ้อน หรือเกิดความพิการของผู้บาดเจ็บได้ ขอให้โทรแจ้งทีมแพทย์กู้ชีพ โทร.1669 สอบถามเพิ่มเติมสายด่วน กรมควบคุมโรค 1422

Related Posts

Send this to a friend