แอสตร้าเซนเนก้า เตือน โรคมะเร็งรังไข่ แนะผู้มีประวัติครอบครัวป่วยมะเร็ง หมั่นตรวจสุขภาพประจำปี
แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย จัดโครงการ We Care เพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้ เกี่ยวกับโรคมะเร็งที่พบบ่อยในสตรี ได้แก่ มะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม เนื่องในวันที่ 8 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันมะเร็งรังไข่สากล (World Ovarian Cancer Day) ล่าสุดได้ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งรังไข่ และปัจจัยเสี่ยง รวมถึงเน้นย้ำ 3 เรื่องที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักรู้ ถึงความสำคัญของการวินิจฉัย ตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม เพื่อผลลัพธ์ในการรักษา ที่มีประสิทธิภาพ เพราะมะเร็งรู้เร็ว รักษาได้
เนื่องจากมะเร็งรังไข่ มักพบบ่อยเป็นอันดับ 8 ในผู้หญิงทั่วโลก และพบเป็นอันดับ 2 รองลงมาจากมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงไทย โดยในปี 2563 มีผู้ป่วยรายใหม่ทั่วโลก ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งรังไข่กว่า 314,000 ราย และเสียชีวิตเกือบ 207,000 ราย โดยคาดว่าภายในปี 2583 จำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นถึง 42% เป็นผู้ป่วยรายใหม่ ที่ได้รับการวินิจฉัย 445,000 ราย และเสียชีวิตถึง 314,000 ราย เนื่องจากส่วนใหญ่ผู้ป่วยมะเร็งรังไข่ จะได้รับการวินิจฉัยครั้งแรก คือประมาณ 7 เดือน หลังเริ่มแสดงอาการ ซึ่งหมายความว่า มีผู้หญิงจำนวนมาก ที่เข้าพบแพทย์ในระยะท้ายที่มะเร็งลุกลามมากแล้ว เนื่องจากขาดความเข้าใจ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับอาการต่างๆ ที่เป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้น จึงคิดว่าเป็นอาการผิดปกติที่ไม่รุนแรง
เริ่มจากอาการที่เป็นสัญญาณเตือน ของโรคมะเร็งรังไข่ ได้แก่ อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง จากการที่ในท้องมีน้ำ หรือ ก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่ อาการปวดท้องน้อย และมีประจำเดือนผิดปกติ อาการปวดท้อง อิ่มเร็ว เบื่ออาหาร ปัสสาวะบ่อย อั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือท้องผูก ซึ่งเกิดจากการที่ก้อนมะเร็งอาจไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ ลำไส้เล็กหรือลำไส้ใหญ่ เนื่องจากอาการดังกล่าวไม่จำเพาะกับโรคใดโรคหนึ่ง จึงทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ อาจยังไม่ตัดสินใจเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินเพิ่มเติม จนได้รับการรักษาล่าช้าในท้ายที่สุด ซึ่งนำไปสู่การที่ภาวะมะเร็งลุกลาม มากขึ้น หรือในผู้ป่วยบางราย อาจไม่แสดงอาการของโรคเลย นอกจากจะตรวจพบความผิดปกติ จากการตรวจภายใน หรือการตรวจร่างกายทั่วไป
และหากใครที่มีสมาชิกในครอบครัว มีประวัติเป็นโรคมะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม มะเร็งตับอ่อน หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก ถือว่ามีปัจจัยเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป โดยโรคมะเร็งรังไข่นั้นไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในผู้หญิงที่มีอายุมากเท่านั้น แต่หากผู้ป่วยมีประวัติเป็นโรคมะเร็งเต้านม ก่อนอายุ 40 ปี หรือสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคมะเร็ง ที่กล่าวมาข้างต้นก่อนอายุ 50 ปี ควรเข้ารับการปรึกษากับสูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ให้คำปรึกษาทางพันธุศาสตร์
นอกจากนี้การมีประจำเดือนครั้งแรกก่อนอายุ 12 ปี หรือเร็วกว่าปกติ ผู้ที่ยังไม่เคยตั้งครรภ์ คลอดบุตร หรืออยู่ในภาวะมีบุตรยาก ผู้ที่คลอดบุตรคนแรกหลังอายุ 30 ปี ผู้ที่หมดประจำเดือนช้ากว่า 55 ปี ก็นับเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน
เนื่องจากมะเร็ง รู้ไว รักษาได้ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหมั่นสังเกต อาการบ่งชี้หรือสัญญาณเตือนของโรคมะเร็งรังไข่อย่างสม่ำเสมอ หากเกิดอาการสักระยะหนึ่งแล้ว และเกิดขึ้นมากกว่า 12 ครั้งต่อเดือน ควรรีบพบแพทย์ พร้อมทั้งแจ้งประวัติครอบครัว ที่อาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งรังไข่ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าจะได้รับการวินิจฉัย อย่างรวดเร็วและสามารถรักษา ได้อย่างทันท่วงที เนื่องจากผู้ป่วยมะเร็งรังไข่ หากได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ก็จะมีอัตราการรอดชีวิตสูงขึ้น
ทั้งนี้การตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะทางด้านนรีเวชถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ในการช่วยลดความเสี่ยงการตรวจพบโรคมะเร็งรังไข่ในระยะรุนแรงได้ นอกจากนี้การเลือกทานอาหาร ที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ
สำหรับโครงการ “We Care เพราะเราแคร์คุณ” ก่อตั้งขึ้นเพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้ เกี่ยวกับโรคมะเร็งที่พบบ่อยในสตรี ได้แก่ มะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม และโรคมะเร็งที่พบบ่อยในบุรุษ ได้แก่ มะเร็งต่อมลูกหมาก พร้อมทั้งแบ่งปันความรู้เรื่องโรค โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อให้ผู้ป่วยและประชาชนทั่วไปเกิดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโรค การวินิจฉัย ทางเลือกในการรักษาที่มีอยู่ในปัจจุบัน และการดูแลตนเองเพื่อให้อยู่กับ โรคมะเร็งได้อย่างไร้กังวล