TCP Sustainability Forum 2025 ชี้ ‘Sustainable Growth’ คือทางรอดธุรกิจ
เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 68 กลุ่มธุรกิจ TCP จัดงาน “TCP Sustainability Forum 2025” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ภายใต้แนวคิด Sustainable Growth: The Future of Growth เพื่อเป็นเวทีสำหรับผู้นำองค์กร นักเศรษฐศาสตร์ และผู้ประกอบการ ในการหาแนวทางการเติบโตของธุรกิจท่ามกลางความท้าทายด้านเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม
นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวในการเสวนาว่า การดำเนินธุรกิจแบบเดิมไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป องค์กรจำเป็นต้องปรับสมดุล (Rebalancing) และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ (Reinvention) เพื่อให้สอดคล้องกับบริบททางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป โดยหัวใจสำคัญคือความสามารถในการปรับตัว (Adaptability) ซึ่งจะสร้างข้อได้เปรียบในระยะยาว ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจ TCP ได้วางกลยุทธ์ 3 เสาหลัก คือ การกระจายการเติบโต, การยกระดับประสิทธิภาพ และการสร้างรากฐานเพื่ออนาคต ภายใต้แนวคิด EESG (Economic, Environment, Social, Governance) พร้อมกันนี้ยังได้ขยายงานด้านความหลากหลายทางชีวภาพผ่าน 2 โครงการใหม่ คือ โครงการพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์นอกเขตคุ้มครอง ร่วมกับสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย (BCST) และโครงการป่าไม้เพื่อคาร์บอนเครดิต ร่วมกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง
เจียง เหว่ย อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและพาณิชย์ สถานทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าว ปาฐกถาพิเศษว่า การพัฒนาที่ยั่งยืนคือพลังขับเคลื่อนใหม่ของความร่วมมือระหว่างจีนและไทย ซึ่งแนวคิดการพัฒนา 5 ด้านของจีนสอดคล้องกับโมเดล BCG ของไทย ปัจจุบันมีบริษัทจีนกว่า 1,000 แห่งเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสีเขียวในไทย ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการร่วมสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมให้เติบโตไปด้วยกัน
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า โลกกำลังอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว (The Great Green Transition) และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว แม้บางประเทศจะลดบทบาทด้านความยั่งยืนลง แต่ในที่สุดวิกฤตสภาพภูมิอากาศจะทำให้เรื่องนี้กลับมาเป็นวาระหลักอีกครั้ง ดร.กอบศักดิ์ เสริมว่า ประเทศไทยกำลังเตรียมความพร้อมด้านกฎหมายและการสร้างความเข้าใจให้ภาคเอกชน เพราะการลงทุนใน Green Transition และการเร่งปรับตัวด้านเทคโนโลยี คือโอกาสในการสร้างความได้เปรียบในระยะยาว
ด้าน ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) เน้นย้ำว่า AI คือเครื่องมือสำคัญที่สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด (Disruptive Growth) และสามารถยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศได้หลายเท่าตัว
ขณะที่ บรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ตั้งคำถามว่าการเติบโตที่มีความหมายต้องครอบคลุมทั้งความมั่งคั่ง การกระจายรายได้ที่เป็นธรรม และความยั่งยืน โดยชี้ว่าดัชนีสิ่งแวดล้อม (EPI) ของไทยที่อยู่อันดับ 90 จาก 180 ประเทศ สะท้อนว่าปัจจัยเชิงโครงสร้าง เช่น หลักนิติธรรมและความโปร่งใส มีความสำคัญต่อการเติบโตที่ยั่งยืนไม่น้อยกว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจ
ภายในงานยังมีการเสวนาจากกลุ่มผู้ประกอบการ SME และผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งสะท้อนมุมมองตรงกันว่า ธุรกิจไม่สามารถมุ่งเน้นแค่การทำกำไร แต่ต้องสร้างคุณค่าให้สังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่กัน โดยมีตัวอย่างการนำไปปฏิบัติจริง เช่น การแปรรูปวัตถุดิบที่หลุดมาตรฐานเพื่อลดขยะอาหาร (Food Waste) และการทดลองโมเดล EPR (Extended Producer Responsibility) ที่ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการบรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว
เวที TCP Sustainability Forum 2025 สะท้อนมุมมองของผู้นำจากหลากหลายภาคส่วนที่เห็นตรงกันว่า การเติบโตของธุรกิจในอนาคตต้องเป็นการเติบโตที่มั่นคง เป็นธรรม และยั่งยืน ซึ่งถือเป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่อนาคตที่แท้จริง












