ECONOMY

อุปทูต ณ กรุงเฮก เผยชาวดัตช์นิยมอาหารไทย

อุปทูต ณ กรุงเฮก เผยชาวดัตช์นิยมอาหารไทย แนะผู้ประกอบการคำนึงถึง ‘ราคา-ทำง่าย-อร่อย’ ส่งสินค้าไทยขึ้นชั้นวางในเนเธอร์แลนด์ ชูอาหาร ‘แพลนต์เบส’ สอดคล้องตลาดอียู

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 นางสาวชนม์วิพัฒน์ จ่างตระกูล อุปทูตรักษาการ ณ กรุงเฮก ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลเนเธอร์แลนด์

นางสาวชนม์วิพัฒน์ กล่าวว่า เนเธอร์แลนด์เป็นผู้ส่งออกอาหารระดับโลก เป็นอันดับ 2 รองลงมาจากสหรัฐอเมริกา แม้เนเธอร์แลนด์จะมีขนาดพื้นที่ไม่ถึง 1% ของสหรัฐอเมริกา เคล็ดลับของเนเธอร์แลนด์ในการส่งออกอาหาร อยู่ที่นวัตกรรมอาหาร (Food Innovation)

สำหรับความร่วมมือไทย-เนเธอร์แลนด์ นางสาวชนม์วิพัฒน์ กล่าวว่า หากจำแนกตามกรอบแผนนโยบายต่างประเทศ 5 S จะสอดคล้อง ดังนี้

1.Sustainability (ความยั่งยืน) รัฐบาลไทยผลักดันให้มีความร่วมมือกับเนเธอร์แลนด์ ในเรื่องนวัตกรรมอาหาร โดยเฉพาะเทรนด์ใหม่ ๆ ของโลก เช่น อาหารจากพืช (Plant-based) เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมวิจัยกับมหาวิทยาลัยและศูนย์วิจัยวาเคอนิงเงิน (Wageningen University and Research: WUR) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรชั้นนำของโลก

ขณะเดียวกัน ยังสนับสนุนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และส่งเสริมภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมเนเธอร์แลนด์ ให้มาลงทุนในไทยด้วย

2.Standard (มาตรฐาน) รัฐบาลไทยมีแผนกิจกรรมยกระดับมาตรฐาน ด้วยการส่งนักศึกษาไทยไปศึกษาต่อ ณ WUR ซึ่งปัจจุบันมี 28 คน ที่สามารถกลับมาเป็นอาจารย์เพื่อพัฒนาระดับมหาวิทยาลัยไทยต่อไปได้

3.Status (สถานะ) หรือ Softpower (ซอฟต์พาวเวอร์) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก จัดกิจกรรมจำนวนมาก เพราะคนดัตช์นิยมอาหารไทย จึงให้เห็นอาหารไทยเป็นอาหารแห่งอนาคต (Future Food)

สำหรับวันที่ 5 ธ.ค. 66 ซึ่งเป็นวันชาติไทย และวันหยุดของเนเธอร์แลนด์นั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก จะจัดกิจกรรมร่วมกัน โดยเชิญเซเลบริตี้เชฟอย่าง เชฟเก่ง ราชวัตร วิเชียรรัตน์ เชฟกระทะเหล็กผู้ได้รับรางวัลระดับโลก ร่วมกับเชฟโรงแรมในกรุงอัมสเตอร์ดัม ภายใต้โจทย์อาหารแห่งอนาคต และมีอาหารจากพืชด้วย ซึ่งจะจัดกิจกรรมเหล่านี้บ่อย ๆ

นางสาวชนม์วิพัฒน์ ยังกล่าวว่า จะพยายามส่งเสริมให้วัตถุดิบอาหารไทย เข้าไปขายปลีก และขายส่งในซูเปอร์มาร์เก็ตหลักของเนเธอร์แลนด์ ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อให้มีผลิตภัณฑ์ของไทย และผู้บริโภคทราบว่าสามารถซื้อวัตถุดิบอาหารไทยที่ดีได้

ขณะเดียวกัน สำนักงานการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าให้สินค้าไทยไปอยู่ในชั้นวางสินค้าในเนเธอร์แลนด์มากขึ้น และให้คนดัตช์รู้จักอาหารไทยมากขึ้น เพราะนิสัยคนดัตช์ ไม่ค่อยออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ชอบทำอาหารในบ้าน หากสามารถส่งเสริมอาหารไทยให้เทียบเท่าอาหารอินโดนีเซียที่ชาวดัตช์นิยมได้นั้น ก็จะส่งเสริมการส่งออกสินค้าไทย และสนับสนุนร้านอาหารไทยในเนเธอร์แลนด์ด้วย

นางสาวชนม์วิพัฒน์ ยังเน้นย้ำถึงเกณฑ์การนำเข้าอาหารของสหภาพยุโรป ซึ่งสำนักงานเกษตรในกรุงบรัสเซลล์ และสำนักงานการค้าต่างประเทศ จะพยายามติดตามในกรณีหากมีผลตอบรับกลับมา ยืนยันว่าต้องผ่านเกณฑ์ก่อน ไม่มีการเอื้อกัน ในการนำเข้าต้องเป็นไปตามเกณฑ์

“ราคา ความอร่อย และการทำง่าย ก็เป็นปัจจัย ที่สำนักงานการค้าต่างประเทศจะสื่อสารกับผู้ประกอบการด้วย เพราะมีคู่แข่งเยอะที่จะไปอยู่บนเชลฟ์ จึงเป็นโจทย์ของทีมประเทศไทยที่จะเข้าถึงซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ ๆ ได้” อุปทูตรักษาการ ณ กรุงเฮก กล่าว พร้อมเปิดเผยว่าสินค้าไทยที่ได้รับความนิยมสูงคือ เครื่องแกงสำเร็จรูป

ท้ายที่สุด นางสาวชนม์วิพัฒน์ ยังให้คำแนะนำถึงนักลงทุนไทยคือ ต้องยอมรับว่า อาหารจากพืช อาจยังไม่ติดตลาดมาก ทำให้การตีตลาดอาจยังลำบากในช่วงแรก ดังนั้น ขณะนี้จึงเน้นความร่วมมือด้านวิจัยและนวัตกรรมร่วมกัน เพื่อนำองค์ความรู้ของเขามาพัฒนาในไทย หากในอนาคตธุรกิจของไทยสามารถผลิตอาหารจากพืชได้ ก็ควรไปเจาะตลาดต่อ ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานของสหภาพยุโรป

Related Posts

Send this to a friend