CRIME

DSI บินสำรวจเส้นทางฆาตกรรม นายพอละจี รักจงเจริญ จากจุดที่หายตัวไป ถึงจุดที่พบกระดูก

พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกันแถลงความคืบหน้าคดีการหายตัวไปของนายพอละจี หรือ บิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำชาวบ้านกะเหรี่ยงบ้าน บางกลอย ณ ห้องประชุม อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อำเภอ แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ภายหลังที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้รับสำนวนจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้วได้เชิญประธานอนุคณะกรรมการไต่สวนของ สำนักงาน ป.ป.ท. (เจ้าของสำนวน) มาสอบสวน ซึ่งผลการสอบสวน พบว่า ประเด็นการไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ท. และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ มีความสอดคล้องต้องกันและเป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพียงแต่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีการตั้งประเด็นและกำหนดข้อหาที่เพิ่มเติมขึ้นในส่วนที่เป็นสาระสำคัญของคดีฆาตกรรม และเพื่อให้สำนวนการสอบสวนมีความสมบูรณ์

อธิบดี DSI และ พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะฯ ได้สนธิกำลังร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อนำเฮลิคอปเตอร์ทำการบินสำรวจพื้นที่เกิดเหตุในพื้นที่ จังหวัดเพชรบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อเชื่อมโยงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่เกิดเหตุ (Link suspect to crime scene) จำลองเหตุการณ์ (Re-construction of a crime scene) เพื่อตรวจสอบสภาพภูมิประเทศจากภาพมุมสูง

พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ

เส้นทางการเดินทางจากจากจุดแรกที่นายพอละจี ฯ ถูกควบคุมตัวกระทั่งถึงจุดพบกระดูก และพื้นที่เป้าหมายที่เชื่อว่าน่าจะเป็นจุดที่นำรถจักรยานยนต์ของกลางไปซุกซ่อนหรือทำลาย เพื่อนำผลการสำรวจมาวิเคราะห์และประกอบการพิจารณามูลเหตุจูงใจในการบังคับบุคคลให้สูญหาย จำนวน 6 จุด ดังนี้

– จุดที่ 1 ห้วยคมกฤต
– จุดที่ 2 ด่านเขามะเร็ว
– จุดที่ 3 บริเวณแยกหนองมะค่า
– จุดที่ 4 ไร่ชัยราชพฤกษ์
– จุดที่ 5 บริเวณสะพานแขวน
– จุดที่ 6 พื้นที่ “ใจแผ่นดิน”

พื้นที่เป้าหมายในการสำรวจทางอากาศ

นอกจากนี้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะ ในนามของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษซึ่งเป็นหน่วยผู้รับผิดชอบในการสอบสวนคดีอาญา ได้เดินทางไปยังบ้านป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เพื่อพบนางสาวพิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยาของนายพอละจี รักจงเจริญ

ซึ่งถือเป็นผู้เสียหายหรือเหยื่ออาชญากรรม เพื่อแจ้งสิทธิให้ทราบเกี่ยวกับ “ข้อมูลความคืบหน้าในคดี” ทั้งนี้เป็นไปตามกระบวนการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายตามหลักสากล แห่งปฏิญญาว่าด้วยหลักพื้นฐานเกี่ยวกับการอำนวยความยุติธรรมแก่ผู้ได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมและการใช้อำนาจโดยมิชอบ ค.ศ.1985 (Declaration of Basic Principles of Justice for Victims of Crime and Abuse of Power)

Related Posts

Send this to a friend