CRIME

‘ชัยวัฒน์’ รับทราบข้อหาเพิ่มคดีฆ่าบิลลี่ พอละจี ยินดีพิสูจน์ชั้นศาล

‘ชัยวัฒน์’ รับทราบข้อหาเพิ่มคดีฆ่าบิลลี่ พอละจี ยินดีพิสูจน์ชั้นศาล ดีกว่าถูกกล่าวหาตามฤดูกาลทุกปี ยืนยันจะปกป้องป่าในชีวิตราชการที่เหลือ หลังเข้ารับราชการอีกครั้งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เตรียมส่งฟ้องอัยการวันที่ 5 กันยายนนี้

วันนี้ (31 ส.ค. 65) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมพวก 4 ราย เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,309 “ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง” จากกรณีการตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาจากเหตุฆาตกรรม บิลลี่-พอละจี รักจงเจริญ นักต่อสู้เรียกร้องสิทธิชุมชน บ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ตามที่อัยการสูงสุดมีความเห็นชี้ขาดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม

ชัยวัฒน์ กล่าวว่า ได้รับหนังสือจาก DSI ให้มารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อวานนี้แต่ได้รับการประสานงานจากพนักงานสอบสวนให้มาในวันนี้ก่อนแล้ว ซึ่งตนคิดว่าการมารับทราบข้อกล่าวหา ม.309 เกี่ยวกับการใช้อาวุธก็ถูกต้องครบถ้วนแล้วเพราะมีการแจ้งข้อกล่าวหาการฆ่าอำพรางไปก่อนหน้านี้แล้วก็คงใช้อาวุธด้วย เพื่อให้ครบในกระบวนความ จึงไม่ได้มีความกังวล พร้อมเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา

ชัยวัฒน์ เผยว่าหลังอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้อง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยสั่งไม่ฟ้องมาก่อน ตนอยากเปิดใจว่ารู้สึกขอบคุณ เพราะเจอเทศกาลเรื่องนี้ทุกปี โหมโรงเรื่องบิลลี่กันทุกปี เมื่อวันครบรอบการหายตัวไปเวียนมาถึง ฉะนั้นการเข้าสู่กระบวนการจะดีกว่าเพราะทำให้มันจบในข้อสงสัยของสังคม เชื่อในความบริสุทธิ์ใจของตนเองว่าใครเป็นคนทำ เชื่อในหลักวิทยาศาสตร์ ใครฆ่า ฆ่ายังไง ใครทำอย่างไร หลักฐานต่างๆ เราเชื่อมั่นว่าเราไม่ได้ทำ ไม่มีใครทำ เราเชื่อมั่นในตัวเราอยู่แล้ว คิดว่าสู้ได้ไม่มีปัญหา

“…จบจากกระบวนการในชั้นศาลดีกว่า ไม่ว่ากลุ่มองค์กรใดออกมา ถึงฤดูกาลทีก็เป็นงานประจำปี แล้วต่อไปไม่ต้องถามกันว่า ‘บิลลี่อยู่ไหน’ ผมไปตอบในชั้นศาลดีกว่าว่ายังไง…”

“…ผมยังไม่รู้เลยว่าเหตุเกิดวันที่เท่าไหร่ หมายถึงว่า ในเอกสารนะครับว่า เราฆ่าเมื่อไหร่ ฆ่าอย่างไร วันไหน เกิดเหตุเมื่อไหร่ คือจริงๆเราไม่รู้ เราก็รู้เพียงว่าส่งในชั้นพนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหาเราเท่านั้นเอง…” ชัยวัฒน์ กล่าว

ส่วนหลักฐานที่ตนจะใช้สู้คดีในชั้นศาลนั้น ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะตนยังไม่เคยได้เห็นพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนเลย ได้เห็นเพียงแต่จากข่าวว่ามีเรื่องโครงกระดูก แต่ไม่รู้รายละเอียด ซึ่งคงต้องรอให้ถึงวันนัดตรวจพยานหลักฐาน ตามกระบวนการของชั้นศาล แล้วได้เห็นพยานหลักฐานทั้งหมดก่อน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ที่ผ่านมาต้องตกเป็นจำเลยสังคมในเรื่องนี้มาตลอด นายชัยวัฒน์ ตอบว่า ตนขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้กำลังใจ ส่วนคนที่ยังสงสัยในตัวตน ขอยืนยันว่า ตนทำงานปกป้องป่าและสัตว์ป่ามาตลอดชีวิตเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่เคยทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง

ขณะที่ คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้พิจารณาให้ นายชัยวัฒน์ กลับเข้าไปรับราชการในตำแหน่งเดิม คือ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี เนื่องจากศาลปกครองเพชรบุรี มีคำสั่งทุเลาบังคับคดีจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา และ นายชัยวัฒน์ ได้กลับเข้าไปรับราชการ เมื่อวันจันทร์ที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งนายชัยวัฒน์ ยืนยันว่า การกลับเข้ามารับราชการของตนเองนั้น จะไม่มีผลต่อการไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เพราะคดีนี้ผ่านมานานหลายปี ตนก็ไม่เคยไปยุ่งเหยิงหรือคุกคามใคร ส่วนอายุราชการที่เหลืออีก 2 ปี ก็พร้อมที่จะเข้าไปทำงานด้านการจัดสรรที่ทำกินของประชาชนตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ฉบับใหม่ ปี 2564 แต่ขณะนี้ยังรอการมอบหมายงานจากผู้บังคับบัญชาอยู่ พร้อมยืนยันว่าตนจะเดินหน้าปกป้องอนุรักษ์ป่าไม้ต่อไป

ด้าน นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า วันนี้ได้นัดหมายให้ผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ในข้อหาร่วมกันโดยใช้อาวุธข่มขืนใจผู้อื่น โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ส่วนข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วตั้งแต่แรก พร้อมยืนยันว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และวันนี้ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทำตามที่อัยการมีคำสั่งมา และถือว่าครบถ้วนในชั้นของกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว โดยตนได้มีการพูดคุยกับนายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหา ก็น้อมรับที่จะเข้าสู่ขบวนการชั้นศาล

หลังจากนายชัยวัฒน์ พร้อมพวกได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบคดีพิเศษ ราว 1 ชั่วโมง 30 นาที ระบุว่า ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะไม่มีการส่งเอกสารชี้แจงเพิ่มเติมใดๆอีก เตรียมไปพบอัยการสูงสุดในวันที่ 5 ก.ย.นี้

โดยหลังจากนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษได้นัดหมายผู้ต้องหาทั้งหมด เพื่อจะส่งตัวให้พนักงานอัยการในวันที่ 5 กันยายนนี้ เวลา 10:00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก ทนายความระบุว่า คาดการณ์ว่า อัยการอาจมีคำสั่งส่งฟ้องในวันนั้นเลย จึงได้มีการเตรียมหลักทรัพย์และเอกสาร พร้อมที่จะยื่นขอประกันตัวไว้แล้ว

Related Posts

Send this to a friend