CRIME

‘เสรีพิศุทธ์’ นำผู้เสียหายคดีโกงหุ้น STARK เข้าพบดีเอสไอ ขอให้เร่งรัดคดี

‘เสรีพิศุทธ์’ นำผู้เสียหายกว่า 40 รายคดีโกงหุ้น STARK เข้าพบดีเอสไอ ขอให้เร่งรัดคดี ติดตามทรัพย์ – ฟันข้อหาผู้กระทำผิด หวั่น เกิดการยักย้ายถ่ายเททรัพย์ ด้าน ‘รองอธิบดีดีเอสไอ’ จ่อออกหมายเรียก อดีตประธานกรรมการ เข้ารับทราบข้อหาเร็วๆ นี้

วันนี้ (30 มิ.ย. 66) เวลา 09:30 น. ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วยตัวแทนผู้เสียหาย จำนวน 40 รายในคดีพิเศษ หุ้น STARK และทีมกฎหมายทนายความของพรรค เดินทางเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมเร่งรัดการทำคดีอาญา ติดตามอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิด หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ต่อ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมี พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน น.ส.อรุณศรี วิชชาวุธ ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ เป็นตัวแทนรับเรื่อง

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนพาตัวแทนผู้เสียหายกว่า 40 ราย เข้ามาพูดคุยสอบถามกับทางดีเอสไอ เพื่อเร่งรัดการดำเนินคดีทางอาญา โดยการพูดคุยหารือในวันนี้นั้น เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับทราบถึงจำนวนความเสียหายเบื้องต้น และมูลฐานของคดี ส่วนในขั้นตอนระหว่างนี้ ผู้ฉ้อโกงอาจมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์ได้ จึงต้องให้ทางดีเอสไอเร่งติดตามตรวจสอบ และประสานกับทาง ปปง. เพื่อดำเนินการขอศาลมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินต่อไป เพื่ออนาคตจะได้มีการเฉลี่ยคืนผู้เสียหาย

อีกทั้ง จะไปดำเนินการเตรียมความพร้อมในส่วนของผู้เสียหายทั้งหมดว่ามีกี่ราย และเสียหายอย่างไรบ้าง โดยขณะนี้เรามีการนัดหมายกันไปที่พรรคเสรีรวมไทย เพื่อเตรียมข้อมูลในเรื่องนี้ก่อนมอบให้กับทางดีเอสไออีกครั้ง ซึ่งนอกจากดีเอสไอ จะดำเนินการในส่วนของคดีอาญาแล้ว เราก็จะดำเนินการในส่วนของคดีทางแพ่งควบคู่ต่อไป ส่วนวันนี้เราไม่ได้มีการยื่นหลักฐานอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากทราบว่าดีเอสไออยู่ระหว่างการสอบสวนตรวจสอบว่าบุคคลใดทำผิดบ้าง และยังดูในส่วนของการฟอกเงิน โดยทีมกฎหมายของตนเอง และผู้เสียหายจะมีการฟ้องร้องกับบริษัทประกันในต่างประเทศด้วย

สำหรับข้อกังวลเรื่องอาจจะมีการรับฟ้องฟื้นฟูกิจการนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าวว่า ผู้เสียหายกังวลในส่วนนี้เหมือนกัน เพราะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นายวรรธนะ วงศ์สีนิล ตัวแทนกลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ ได้มาปรึกษากับตน วันนี้จึงพามาปรึกษากับทางดีเอสไอเบื้องต้น เพื่อแจ้งด้วยว่าบรรดาผู้เสียหายก็มีความกังวลในเรื่องของการยักย้ายถ่ายเทรัพย์สิน

ด้านนายปริญ เกษะศิริ ทีมทนายความของพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า วันนี้เป็นเพียงผู้เสียหายส่วนหนึ่งเท่านั้นที่เชื่อมั่นในพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ วันนี้จึงมายื่นคำร้องทุกข์กล่าวโทษกับดีเอสไอ ซึ่งดีเอสไอดำเนินการทางคดีอาญา ส่วนเราเข้ามาเพื่อช่วยดูแลในส่วนของคดีแพ่ง และที่ผ่านมามีการรายงานข่าวว่าสามารถอายัดทรัพย์ได้แล้ว 100 ล้านบาท แต่มันคงไม่พอสำหรับความเสียหายทั้งหมด ซึ่งจากนี้เราจะดูว่าใครมีส่วนรับผิดบ้างมากน้อยแค่ไหน เช่น ผู้ซื้อหุ้นกู้ เหตุใดถึงซื้อ มีความไว้เนื้อเชื่อใจ หรือเป็นเพราะมีหน่วยงานใดทำการรับรองให้กับบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่นจำกัด มหาชน หรือไม่ ทำให้คนเหล่านี้ตัดสินใจพากันซื้อหุ้นกู้ โดยเราจะพิจารณายื่นฟ้องคนเหล่านี้ทั้งหมด รวมถึงจะฟ้องบริษัทในต่างประเทศด้วย แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล

ขณะที่นายวรรธนะ วงศ์สีนิล อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมฟิลลิป จำกัด และในฐานะตัวแทนกลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้เสียหายได้เดินทางไปพบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งตนไม่สนใจหาคนกระทำผิดแต่ต้องการเรียกร้องเพื่อหาเงินมาคืนผู้เสียหายเพราะหลายคนเป็นผู้สูงอายุ ไม่มีเงินซื้อข้าวกินและเจ้าหน้าที่ควรดำเนินการเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว เพราะที่ผ่านมาหลายบริษัทได้เข้าแผนฟื้นฟูกิจการแล้วเรื่องก็เงียบหาย ใช้เวลาฟื้นฟูกว่า 5-20 ปี ผู้เสียหายไม่สามารถอยู่ดำรงชีพไหวแน่นอน ก็เลยมาขอความอนุเคราะห์จาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้ช่วยเร่งรัดติดตามคดีเพราะเชื่อมั่นว่าเป็นที่พึ่งของประชาชนได้

นายวรรธนะ กล่าวอีกว่า เราเพียงต้องการเงินมาคืนเท่านั้นว่าเอาเงินผู้เสียหายไปไว้ที่ไหน หน่วยงานเกี่ยวข้องใดที่จะสามารถนำกลับมาคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้และรวดเร็วที่สุดเพราะพวกเขาไม่มีเงินเลี้ยงชีพแล้ว ในส่วนจะมีการประสานเรียก นายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สอบสวนทางคดีอาญานั้น เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการ

“มูลค่าความเสียหายน้อยสุดที่มีคนซื้อหุ้น ประมาณ 1 แสนบาทและทวีคูณเข้าไป บางคนสูงสุดถึง 30 ล้านบาท หลายคนอายุ 85 ปีขึ้นไป ยังมีบางครอบครัวเป็นสามพี่น้องอายุ 82 -86 ปี มาลงทุนและสุดท้ายไม่มีเงินเหลือ เพราะโดนไปคนละ 2 ล้านบาท ส่วนความเสียหายของทุกคนไม่เท่ากัน บางคนหลักแสนบาทก็เดือดร้อนแล้ว” นายวรรธนะ กล่าว

ขณะที่ พ.ต.ต.ยุทธนา รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ขณะนี้ดีเอสไออยู่ระหว่างการดำเนินการสืบสวนสอบสวนไปพอสมควรแล้ว และได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานและคำให้การในฐานะพยานของบุคคลหลายราย ก่อนพิจารณาดำเนินการออกหมายเรียกผู้ต้องหาต่อไป และขอให้ผู้เสียหายทุกรายไม่ต้องเป็นกังวล เราดำเนินการเร่งรัดเต็มที่ เพื่อให้ทันกรอบระยะเวลา และเพื่อติดตามอายัดทรัพย์มาเฉลี่ยคืนผู้เสียหายให้มากที่สุด

ทั้งนี้ จะนำตัวผู้กระทำความผิดทุกรายที่เกี่ยวข้องมารับโทษทางอาญา ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายเรียกผู้ต้องหาแก่อดีตประธานกรรมการ เนื่องจากพฤติการณ์เป็นผู้วางแผนมีส่วนรู้เห็น ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือจะทยอยออกหมายเรียกตามลำดับต่อๆ ไป

Related Posts

Send this to a friend