CRIME

‘อัจฉริยะ’ ยื่นหนังสือกระทรวงยุติธรรม ขอให้คดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ

‘อัจฉริยะ’ ยื่นหนังสือกระทรวงยุติธรรม ขอให้คดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ ‘เลขาฯ รมว.ยุติธรรม’ ย้ำ เป็นคดีพิเศษได้ หากมีหลักฐานใหม่

วันนี้ (29 เม.ย. 65) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ยื่นหนังสือต่อว่าที่ ร้อยตรีธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ เป็นคดีพิเศษ

ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต ระบุว่า ประเด็นที่นายอัจฉริยะมายื่นเป็นประเด็นใหม่ที่น่าสนใจ ไม่ใช่คดีประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่เป็นคดีฆาตกรรม ไม่นับเป็นการก้าวก่ายการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะคดีความมีอายุ 20 ปี หากมีหลักฐานใหม่ ที่สำคัญต่อรูปคดีก็สามารถตรวจสอบได้ โดยจะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตรวจสอบตามกระบวนการต่อไป ทั้งนี้หลักฐานที่นำมายื่นจะต้องไม่อยู่ในสำนวนคดีหลักที่อยู่ในชั้นอัยการ

พร้อมย้ำว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ตราชั่งไม่เอียง หากไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้ว่า เป็นเหตุฆาตกรรม หรือหลักฐานไม่เป็นความจริง ก็ต้องดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะเช่นกัน

ส่วนเรื่องปมจำนวนบาดแผลของแตงโมพบครั้งแรกมีเพียง 11 บาดแผล แต่เมื่อฉีดฟอร์มาลีนทำให้รอยแผลชัดขึ้นจนพบ 22 บาดแผล ส่วนบาดแผลที่เพิ่มเป็น 26 บาดแผลในวันสรุปสำนวนคดีนั้น ไม่เห็นในรายงานการชันสูตรตอนต้น

ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต ชี้แจงว่า สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เป็นเพียงจิ๊กซอว์ไขข้อข้องใจให้นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน ตรวจเนื้อเยื่อ และสารคัดหลั่ง ไม่ได้ชันสูตรบาดแผลต้นขาขวาของแตงโม ผลสรุปที่ว่าแผลเกิดจากใบพัดเรือเกิดจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะแพทย์นิติเวชของกระทรวงยุติธรรมสรุปเพียงว่า แผลเกิดจากของมีคม และเกิดก่อนเสียชีวิต ส่วนประเด็นเรื่องทรายในมือ ตรวจไม่พบ เพราะมีการชำระล้างมาก่อนหน้า พบเพียงกรวดทรายในหลอดลม และกระเพาะอาหาร

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า วันนี้นำหลักฐานเป็นภาพเปรียบเทียบบาดแผลที่เกิดจากใบพัดเรือในต่างประเทศหลายกรณีมามอบให้เจ้าหน้าที่ พร้อมร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีอาญากับนายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ กับพวก ที่ร่วมกันฆาตกรรมอำพราง แตงโม เพราะมีหลักฐานใหม่ ตำรวจเชื่อคำให้การของนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน ว่า แตงโมตกท้ายเรือ โดยไม่มีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ใด ๆ พร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง หากไม่เป็นความจริงสามารถฟ้องกลับได้ แต่หากเป็นการฆาตกรรม โทษของผู้ต้องหาจะต้องหนักขึ้น โดยเฉพาะเรื่อง พล.ต.ต. อักษรย่อ ต. ที่มีหลักฐานเป็นคลิปเสียงว่า เป็นคนบงการให้คดีมีเนื้อหาเปลี่ยนไป

พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กรมสอบสวนร่วมกันสืบสวนกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี แต่เมื่อส่งสำนวนให้อัยการก็นับว่า การสอบสวนเสร็จสิ้น ส่วนการร้องขอของนายอัจฉริยะ สามารถสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อได้ โดยหาหลักฐานตามประเด็นและ หาข้อสรุปต่อไปว่าเป็นเหตุฆาตกรรมจริงหรือไม่

Related Posts

Send this to a friend