รอง ผบช.น. ยืนไว้อาลัยให้ ‘หมอกระต่าย’ ‘สิบตำรวจตรี’ อยากบวชอุทิศบุญ แต่ยังบวชไม่ได้ เนื่องจากต้องคดี
รอง ผบช.น. ยืนไว้อาลัยให้ ‘หมอกระต่าย’ พร้อมแจ้ง 7 ข้อหาหนัก ‘สิบตำรวจตรี’ ยัน ไม่ได้ปกปิดข้อมูล และไม่ใช่รถของกลาง แต่เป็นรถมือสอง มีเอกสารซื้อ-ขายชัด ด้าน ‘สิบตำรวจตรี’ อยากบวชอุทิศบุญ แต่ยังบวชไม่ได้ เนื่องจากต้องคดี
วันนี้ (24 ม.ค.65) ความคืบหน้าคดี ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ขับรถชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย บริเวณทางม้าลายหน้าสถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ล่าสุดพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ยากที่สุดเพราะเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องสูญเสียแพทย์หญิงจักษุวิทยา บุคลากรที่ทรงคุณค่าของประเทศ ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในวงการแพทย์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ทั้งนี้ขอชี้แจงคดีดังกล่าวใน 5 ประเด็น ประเด็นแรกคือ การดำเนินคดี โดยหลังเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้รับบาดเจ็บเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ และเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ณ ขณะนี้มีทั้งหมด 7 ข้อหา ได้แก่ ขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ขับรถไม่ใกล้ขอบทางด้านซ้าย, ไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย, นำรถไม่ปิดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทาง, นำรถที่มีอุปกรณ์ส่วนร่วมมาใช้ในทาง (กระจกส่องหลัง), นำรถไม่ได้เสียภาษีประจำปีมาใช้ในทาง และใช้รถไม่ได้จัดให้มีประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา
ประเด็นที่ 2 การปล่อยตัวโดยไม่มีหลักประกัน เป็นไปตามหลักพื้นฐานของกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความทางอาญา มาตรา 107 ผู้ต้องหาพึงได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยคดีที่จะไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวต้องเหตุตามมาตรา 108/1 หลบหนี ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ก่อเหตุอันตรายประการอื่น ๆ ผู้ร้องขอประกันไม่น่าเชื่อถือ หรือเป็นอุปสรรคในการสอบสวน ซึ่งกรณีนี้ผู้ต้องหาเข้ามามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ไม่ใช่การจับกุมความผิดซึ่งหน้า หรือตามหมายจับ พนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วว่า ผู้ต้องหาไม่มีทีท่าหลบหนี มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และไม่ได้เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานจึงปล่อยตัวไป
ประเด็นที่ 3 การส่งสำนวนคดีให้อัยการที่อาจใช้เวลานาน ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.พญาไท อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน อาทิ การชันสูตรบาดแผล ข้อมูลความเร็วรถ เอกสารการซื้อขายรถ สภาพรถ และประวัติการต้องโทษ คาดว่าจะส่งสำนวนไปยังอัยการในวันที่ 11 ก.พ.65 เวลา 09.00 น.
ประเด็น 4 จากที่มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บเอกสาร และไม่แจ้งข้อมูลผู้เสียชีวิตกับทางโรงพยาบาล ขอชี้แจงว่า หลังพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งเหตุก็ลงพื้นที่เกิดเหตุทันที และใช้เวลาตรวจสอบ และพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุร่วม 30-40 นาที จากนั้นประสานกับฝ่ายสืบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบภาพจากล้องวงจรปิด ลงบันทึกประจำวัน และสืบค้นข้อมูลในทะเบียนราษฎร์เพื่อติดต่อญาติแต่ไม่พบ จนมีเพื่อน และอาจารย์โทรเข้ามาในโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิต พนักงานสอบสวนจึงแจ้งให้ทราบ และส่งหลักฐานระบุตัวตน เพื่อแจ้งให้ญาติทราบต่อไป ก่อนที่จะนำใบนำส่งการชันสูตรบาดแผลให้กับโรงพยาบาลราชวิถี
ประเด็นที่ 5 จากการตรวจสอบรถที่ผู้ต้องหาใช้ในวันเกิดเหตุไม่ใช่รถของกลางตามที่เป็นข่าว แต่เป็นรถมือสองที่มีเอกสารการซื้อขาย และทะเบียนที่ถูกต้องซื้อขายเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.64 ในราคา 113,000 บาท
ประเด็นสุดท้าย ข้อห่วงใยของตำรวจนครบาลต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางความรู้สึก จึงขอวิงวอนให้พี่น้องประชาชนไม่แชร์ หรือส่งภาพเหตุการณ์ในโลกโซเชียล เพราะจะเป็นการซ้ำเติมความรู้สึกของผู้สูญเสีย ส่วนกรณีที่มีการแชร์ข้อมูลบิดเบือนข้อเท็จจริง เช่น ระบุว่า รถของ ส.ต.ต.เป็นรถของกลางที่ยึดมา ถือเป็นการสร้างกระแส ย้ำว่ามีความผิดตามกฎหมาย และทำร้ายความรู้สึกของประชาชนที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงด้วย
พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเลขา ผกก.สน.พญาไท เปิดเผยไทม์ไลน์ในคดีนี้ว่า เมื่อเวลา 15.10 น. พนักงานสอบสวน เวรคดีจราจร สน.พญาไทได้รับแจ้งเหตุ จึงเดินทางไปที่เกิดเหตุและใช้เวลาตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วม 30 นาที ก่อนที่จะเดินทางกลับ สน.เพื่อประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิด สืบค้นประวัติเพื่อติดต่อญาติ และลงบันทึกประจำวันในเวลา 15.55 น. ความมุ่งหมาย ณ ตอนนั้นคือ ต้องการติดต่อญาติ จึงต้องสืบค้นประวัติตามทะเบียนราษฎร
ก่อนที่เวลา 17.00 น. จะมีอาจารย์ของผู้เสียชีวิตติดต่อมา เจ้าหน้าที่จึงส่งข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตน และเดินทางไปยังโรงพยาบาลราชวิถีมอบทรัพย์สินบางส่วนให้กับอาจารย์ของผู้เสียชีวิต และในเวลา 19.30 น. ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวที่ สน.พญาไท พร้อมตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งไม่พบแอลกอฮอล์ในร่างกาย
พ.ต.อ.บวรภพ ยืนยันว่า พนักงานสอบสวนต้องเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อทำการตรวจสอบ และการติดต่อญาติเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ส่วนเรื่องรถของผู้ต้องหา ต้องรอสอบปากคำเพิ่มเติม เพราะขณะนี้มีเพียงเอกสารการซื้อขายที่นำมาแสดงต่อพนักงานสอบสวนเท่านั้น
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยของผู้ก่อเหตุแล้ว โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด และยังไม่ได้พิจารณาให้ ส.ต.ต.ช่วยราชการในหน่วยงานอื่น ส่วนการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต จะให้พนักงานสอบสวน สน.พญาไทเป็นแม่งานหลักในการเจรจาชดใช้ค่าสินไหมทางแพ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนการแถลงข่าว พล.ต.ต.จิรสันต์ และ พ.ต.อ.บวรภพ ได้ยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยให้กับ ‘หมอกระต่าย’ เป็นเวลา 1 นาที ทั้งนี้มีรายงานว่า ผู้ต้องหาและบิดา แจ้งความจำนงค์จะอุปสมบทเพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับ ‘หมอกระต่าย’ แต่ยังไม่สามารถอุปสมบทได้ เพราะวัดไม่อนุญาตให้ผู้ต้องคดีอุปสมบท