ทนาย ‘บอสพอล’ เตรียมรับมอบอำนาจดำเนินคดี ‘กฤษอนงค์ – รัฐภูมิ‘ ปมคลิปเสียง 20 ล้าน
ทนาย ‘บอสพอล’ เตรียมรับมอบอำนาจดำเนินคดี ‘กฤษอนงค์ – รัฐภูมิ‘ ปมคลิปเสียง 20 ล้าน จ่อขอประกันตัว ‘บอสวิน’ ป่วยมะเร็งระยะ 3 อีกครั้ง หลังศาลยกคำร้อง เผย กลุ่มบอสทราบแล้ว ’กฤษอนงค์‘ เข้าเรือนจำ เชื่อ ไม่อยากเจอหน้า
วันนี้ (19 พ.ย. 67) เวลา 11:00 น. นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เข้าเยี่ยมกลุ่มผู้ต้องหาภายในที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มีทีมทนายได้นำหนังสือมอบอำนาจเข้าไปให้กับบอสพอล เซ็นมอบอำนาจในการดำเนินคดีกับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ และนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ภายหลังปรากฏคลิปเสียงรับเงิน 20 ล้านบาทกับ น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือ บอสปัน
อีกทั้ง ในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ย. 67) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) จะเข้าสอบปากคำเพิ่มเติมกลุ่มผู้ต้องหาภายในเรือนจำฯ ซึ่งเป็นกรณีที่ต่อมาจากพนักงานของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางที่ได้สอบสวนไว้ โดยคาดว่า จะเป็นเรื่องของพฤติการณ์คดีโดยละเอียด เช่น ใครแจ้งความใครไว้ ใครฉ้อโกงอย่างไร ซึ่งฝั่งดิไอคอนกรุ๊ป ก็พร้อมให้สอบปากคำ
อย่างไรก็ตาม หากได้รับหนังสือมอบอำนาจจากบอสพอลทันในวันนี้ ตนเองจะเดินทางไปแจ้งความเอาผิดที่กองบังคับการปราบปราม ในช่วงเวลาประมาณ 14:00 – 15.00 น. ทันที ซึ่งจะต้องพิจารณาเรื่องการแจ้งข้อหา คาดว่าจะมี 2 ข้อหาที่เข้าข่าย คือ ข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง แต่ทีมทนายความเห็นว่า น่าจะเข้าข่ายข้อหาพยายามฉ้อโกงมากกว่า เพราะมีหลักฐานการข่มขู่ ว่าถ้าไม่จ่ายเงินจะมีปัญหา ทำให้เสียหาย และอ้างถึงนายภูดิท กำเนิดพลอย หรือ หนุ่ม กรรชัย ว่า จะเขียนสคริปต์โจมตีบริษัท โดยคดีนี้ ฝั่งดิไอคอนกรุ๊ปเป็นผู้เสียหาย เพราะบอสปันพูดคุยกับ น.ส.กฤษอนงค์ ในนามดิไอคอน ส่วนคดีหมิ่นประมาทฯ ของนายภูดิท เป็นอีกคดีหนึ่ง แต่ใช้พยานชุดเดียวกัน
ส่วนจะออกหมายเรียกหรือหมายจับนั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพนักงานสอบสวน รวมทั้งจะเข้าข่าย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หรือไม่นั้น มองว่า คงไม่เข้าข่าย เพราะไม่ได้นำข้อมูลลงในระบบคอมพิวเตอร์
ส่วนการดำเนินคดีกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ หรือเอก สายไหมต้องรอดนั้นิทนายความได้เข้าแจ้งความ พร้อมให้ปากคำครบแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสอนว่า จะออกหมายเรียกหรือหมายจับ โดยมีการแจ้งข้อหา หมิ่นประมาทฯ, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และร่วมกันให้การเท็จ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ส่งทนายแจ้งความ น.ส.กฤษอนงค์ จากกรณีคลิปเสียงแอบอ้างนั้น ก็แยกเป็นอีกเรื่อง แยกจากกรณีคลิปเสียง 20 ล้านบาท ซึ่งฝั่งดิไอคอนกรุ๊ป ก็คาดว่าน่าจะต้องเป็นพยานให้ในคดีของ น.ส.จิราพร ด้วย
ส่วนที่ น.ส. กฤษอนงค์ อ้างว่า ความผิดยังไม่สำเร็จ เพราะยังไม่ได้รับเงินนั้น นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ก็เข้าข่ายพยายามกรรโชกทรัพย์อยู่ดี แม้การกระทำความผิดยังไม่บรรลุผล
นอกจากนี้ นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (16 พ.ย. 67) ตนเองได้ไปยื่นขอประกันตัวบอสวิน โดยนำหลักฐานเป็นใบรับรองแพทย์ไปยื่น เพราะมีปัญหาเรื่องสุขภาพที่ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะที่ 3 โดยตอนนี้ยังอยู่ในแดน 1 โดยสภาพร่างกายของบอสวินมีเกล็ดเลือดต่ำ และอาการไม่คงที่ แต่ท้ายที่สุดศาลกลับยกคำร้องไม่ให้ประกันตัว โดยไม่ได้มีการไต่สวน โดยให้เหตุผลว่า มีผู้เสียหาย และมูลค่าความเสียหายเยอะ เกรงว่าจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ประกอบกับมีการคัดค้านการประกันตัวจากผู้เสียหาย และพนักงานสอบสวน
นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า กรณีนี้ไม่ได้ทำให้กลุ่มบอสที่เหลือเสียขวัญแต่อย่างใด และในการประกันตัว กลุ่มบอสที่เหลือก็รู่อยู่แล้ว ว่าเป็นเรื่องยาก และน่าจะต้องอยู่จนครบทั้ง 7 ฝาก ซึ่งจะยื่นขอประกันตัวบอสวินต่อไปหรือไม่นั้น ต้องรอความเห็นแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์อีกครั้งและส่วนตัวมีความคิดว่าจะนำตัวบอสวินไปคุมขัง และรักษาที่โรงพยาบาลนอกเรือนจำฯ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ตอนนี้บอสปัน และบอสพอลทราบเรื่องที่ น.ส.กฤษอนงค์ ถูกคุมขังในเรือนจำแล้วหรือไม่ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ทนายความของบอสปันทราบแล้ว แต่ไม่ได้มีท่าทีอะไร ส่วนบอสพอลนั้น ก็ทราบแล้วเช่นกัน และไม่ได้ฝากอะไรเป็นพิเศษ พร้อมย้ำว่า กลุ่มบอสคงไม่ได้รู้สึกสะใจ แต่กลับกังวลมากกว่า เพราะเข้าไปอยู่คนละแดน แต่เวลาจะต้องทำกิจกรรมร่วมกัน ก็ต้องเจอหน้ากันอยู่ดี และกลุ่มบอสคงไม่อยากเจอ เพราะคาดว่าน่าจะเหม็นขี้หน้า
สำหรับ กลุ่มผู้เสียหายที่เป็นตัวแทนจำหน่ายของดิไอคอนกรุ๊ป ที่เข้าร้องกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ พ.ต.ท.ราเชน แสงหมี รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ. ให้ปลดอายัดบัญชี เนื่องจากได้รับผลกระทบนั้น ตนเองจะแจ้งตัวแทนให้ไปร้องที่ดีเอสไอแทน ซึ่งผู้ที่ถูกอายัดบัญชีไม่ได้มีเพียง 40 คนแต่มีทั่วประเทศ และมองว่า เป็นเรื่องใหญ่ เพราะหลายคนมีภาระที่จะต้องใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และไม่ควรมีการอายัดแบบหว่านแหในลักษณะแบบนี้
ส่วนที่มีการอ้างว่า มีคลิปบอสปันไปกราบเท้า น.ส.กฤษอนงค์ เพื่อขอให้ช่วยเหลือก่อนเป็นคดีกันนั้น นายวิฑูรย์ ระบุว่า ตนถามเลขาของบอสปันแล้ว ยืนยันว่า ไม่มีการกราบ และฝั่งดิไอคอนกรุ๊ป ไม่ได้กังวลว่า อีกฝั่งจะมีคลิปเด็ดอะไรหรือไม่ เพราะฝั่งเราก็มีคลิปเด็ดพอสมควร และเป็นหลักฐานที่ยังไม่ได้เปิดเผย