รองผบ.ตร.แถลงผลชันสูตร ‘สารวัตรกานต์’ เบื้องต้น เสียเลือดมาก พบกัญชาในกระแสเลือด

รองผบ.ตร. แถลงผลชันสูตร ‘สารวัตรกานต์’ เบื้องต้น เสียชีวิตจากการเสียเลือดมาก และพบกัญชาในกระแสเลือด เผย เหตุคลุ้มคลั่งมาจากหลายปัจจัย เตรียมเยียวยาทุกฝ่าย
วันนี้ (16 มี.ค. 66) พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังร่วมประชุมกับทีมแพทย์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณี ผลชันสูตรสารวัตรกานต์
พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ระบุว่า ขณะนี้ผลการชันสูตรยังไม่ครบถ้วน จึงต้องขอให้ชันสูตรให้ละเอียดก่อน โดยสาเหตุเบื้องต้นของการเสียชีวิตคือการเสียเลือดมาก พบเลือดออกในช่องท้อง ปอด และในสมองไม่มีรอยกระสุน ต้องรออีก 2 วันจึงจะได้ผลการชันสูตรแบบละเอียด ส่วนเรื่องสารเสพติดนั้นต้องรอตรวจเลือดอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้สามารถตอบคำถามของสังคมได้ โดยเบื้องต้นพบสารในกลุ่มกัญชาเท่านั้น
“วันนี้มาในฐานะผู้บังคับบัญชา เพราะเราถือว่าเขาเป็นตำรวจ และไม่อยากให้เป็นแบบนี้ เจ้าหน้าที่เจรจาต่อรองทุกวิถีทางแล้ว จะรายงานผลให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และจะเยียวยาตามขั้นตอนทุกอย่าง เพราะที่ผ่านมาเขาก็มีผลงานที่มีคุณค่าให้กับทางตำรวจอยู่มาก”
ผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุในการเสียชีวิตว่าญาติของผู้เสียชีวิตติดใจหรือไม่ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ระบุว่า พี่ชายติดใจนิดหน่อย ว่าทางเจ้าหน้าที่ได้ทำร้ายให้ตายหรือไม่ แต่แพทย์ตอบได้ว่าเป็นบาดแผลที่เกิดจากการปะทะกันจริง ทางพี่ชายก็เป็นตำรวจ เขารู้อยู่แล้วว่าเราทำตามขั้นตอนทุกอย่าง
“เราทำตามหลักวิธีทั้งหมด ผมพูดตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาคือผู้ป่วย ต่อจากนี้จะมีการสอบพยาน ให้ละเอียดลงไปว่าเราปฏิบัติหน้าที่แบบไหน สำหรับบาดแผลถูกยิงนั้น เบื้องต้นพบ 6 จุด เพราะกระสุนทะลุทั้งตัวหมด แต่ยังเหลือแผลที่ถากๆ อีก โดยในคลิปที่เห็นคือถูกยิงตั้งแต่ข้างในบ้านแล้ว แต่ยังไม่รู้สึกตัว พอลงมาแล้วทุกส่วนที่เสียเลือด ก็ทำให้ช็อค กระสุนที่พบต่ำกว่าหน้าอกลงไป อาจมาจากจังหวะเอี้ยวตัวหรือกระโดดทำให้ทะลุปอด”
ส่วนสาเหตุของอาการคลุ้มคลั่งนั้น พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ เชื่อว่าอาจมาจากช่วงเช้าในวันเกิดเหตุที่แพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจจะมารับไปรักษาจึงเกิดการสติแตก และมาจากปัญหาส่วนตัว ซึ่งเป็นปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นให้สติแตก เพราะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่หนองบัวลำภู ก็ให้มีหน่วยงานคอยคัดกรองภาวะสุขภาพจิตตลอด
“สาเหตุมีหลายปัจจัย อาจเก็บกด เพื่อนน้อย มีความเชื่อในเรื่องพระเจ้า ถ้าคนรู้เรื่องแบบนี้ก็คุย ถ้าไม่รู้ก็ไม่คุย เหมือนสูบลมเข้าไปในลูกโป่ง สะสมเอาไว้ จึงเกิดอาการคลั่ง ต้องให้แพทย์ให้คำปรึกษา เป็นเรื่องที่เกิดในสังคมได้ตลอดเวลา อยู่ที่ว่าจะเจอหรือไม่ ซึ่งสมัครเข้ามาเป็นตำรวจตั้งแต่ปี 2561 จะมีการทดสอบจิตเวชอยู่ตลอด”
ผู้สื่อข่าวถามถึงการบุกเข้าไปจู่โจม และจับกุมที่ผ่านมาใช้เวลาร่วม 28 ชั่วโมง และสุดท้ายผู้ก่อเหตุก็เสียชีวิต นับเป็นการทำงานที่ล้มเหลวหรือไม่ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ระบุว่า ไม่ล้มเหลว เพราะการทำงานของเจ้าหน้าที่ต้องเริ่มจากเบาไปหาหนัก ถ้าจะเอาให้ตายจริง ๆ ก็ตายตั้งแต่วันแรกแล้ว เขาทำงานดี เป็นที่รักของคนในที่ทำงาน แต่ความที่เป็นจิตเวชทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น สารวัตรกานต์ก็ถูกฝึกมา เขาเป็นยุทธวิธีทั้งหมด
อยู่ในทำเลที่เหมาะสม ทำให้มีวิธีรับมือกับเจ้าหน้าที่ได้ กรอบเวลาไม่ได้อยู่แค่ใน 24 ชั่วโมง ถ้าทำถูกใจแต่ไม่ถูกต้อง ก็ไม่ได้ เจ้าหน้าที่มีมียุทธวิธี โดยคนที่ต้องขึ้นศาลไม่ใช่คนนั่งดู แต่คือตำรวจ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องไปให้การในศาล
ส่วนกระแสที่สังคมมองว่าเป็นการปิดปากหรือไม่นั้น พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ระบุว่า จะปิดปากทำไม มีอะไรที่ต้องปิดปาก ทุกวันนี้การสื่อสารไม่ใช่ทางเดียวแล้ว ไม่มีอะไรที่เป็นความลับอีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ญาติของผู้เสียชีวิตขอความเป็นส่วนตัว และงดถ่ายภาพ งดบันทึกวิดีโอ ขณะเคลื่อนย้าย และลำเลียงศพไปที่วัด