CRIME

เตรียมแจ้ง 157 ผู้การฯ ชลบุรี กรณีเปลี่ยนตัวผู้ต้องหา คดียิงคู่อริในวิลล่าหรูชลบุรี

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เตรียมแจ้ง 157 ผู้การชลบุรี กรณีเปลี่ยนตัวผู้ต้องหา ในคดียิงคู่อริในวิลล่าหรูชลบุรี

วันนี้ (14 พ.ย. 65) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.(สส) กล่าวถึงกรณีการเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาที่กระทำความผิด ใช้ปืนยิงคู่อริ ที่วิลลาหรูแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยระบุว่า ณ ขณะนี้ได้ไล่สืบสวนร่วมกับตำรวจชุดกองบังคับการสืบสวนสอบสวนของ ตำรวจภูธรภาค 2 โดยในตอนแรก พบว่าผู้ต้องหาที่ก่อเหตุเป็นตัวปลอม 2 คน ซึ่งสุดท้ายยอมรับสารภาพว่าเป็นตัวปลอมจริง โดยได้รับค่าจ้างให้มาเป็นผู้ต้องหาแทน ตำรวจจึงมีความเห็นจับกุมดำเนินคดีและสั่งฟ้องต่อศาลจังหวัดชลบุรี ซึ่งศาลก็ได้มีคำพิพากษาจำคุก 1 ปี แต่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพจึงลดเหลือ 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ส่วนผู้ต้องหาตัวจริงตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวได้ทั้งหมดแล้ว

ต่อมามีการขยายผลว่าเหตุใดผู้ต้องหาจึงกล้ารับเป็นผู้ต้องหาตัวปลอม จึงพบว่ามีรองผู้การตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีเข้ามาเกี่ยวข้องให้สลับตัวผู้ต้องหาที่ไม่ใช่ตัวจริงมามอบตัว ซึ่งขณะนี้ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหารองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีไปแล้ว ตามมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

อีกทั้ง จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่ามีตำรวจระดับผู้บังคับการจังหวัดชลบุรีเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งตอนนี้ได้มีการออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ในข้อหาเดียวกันกับรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าพฤติการณ์ที่เข้ามาเกี่ยวข้องคือเป็นการสั่งการให้ลูกน้องกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งในขณะสืบสวนสอบสวน ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเส้นทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อให้รู้ว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์อื่นใดหรือไม่

ส่วนกรณีบ่อนที่จังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีบ่อนจริง รวมถึงเหตุยิงกันที่บ่อนก็เป็นความจริง แต่เบื้องต้นยังไม่มีผู้เสียชีวิตหรือผู้รับบาดเจ็บ ซึ่งพบว่าเป็นการยิงขู่เท่านั้น รวมทั้งยังพบว่ามีการปล้นเงินในบ่อนไปจริง ซึ่งมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ณ ตอนนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการไล่ดำเนินการ คือการจับคนก่อเหตุทั้งหมดให้ได้ ซึ่งตอนนี้จับได้สองคนแล้ว พบว่าเป็นเด็กที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งต้องพิสูจน์ต่อไปว่าปืนที่ใช้ก่อเหตุเอามาจากไหน ซึ่งขณะนี้สามารถจับกุมเจ้าของบ่อนได้แล้ว พบว่าเป็นคนในพื้นที่ และไม่ได้เกี่ยวกับคนมีสีแต่อย่างใด

อย่างไรก็ดี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำว่าในยุคท่านต้องไม่มีบ่อน ดังนั้นถ้ามีการรายงานข้อมูลเท็จ และถ้ามีเบาะแสว่ามีบ่อนเมื่อไหร่ ผู้กำกับในท้องที่ต้องรับผิดชอบ ส่วนกรณีที่ ผู้กำกับในจังหวัดสมุทรปราการบอกว่าไม่มีบ่อนในตอนแรก ซึ่งต่อมายอมรับว่ามีบ่อนจริงนั้น เกิดจากการที่ตอนที่แถลงข่าวรอบแรกยังตรวจสอบข้อมูลไม่ครบถ้วน

Related Posts

Send this to a friend