บุกรวบ คาราโอเกะแฝงค้าประเวณี ช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ 3 ราย

ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองบุกรวบ คาราโอเกะแฝงค้าประเวณี ช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ พบเป็นเด็กหญิง เด็กชายจำนวน 3 ราย ทำงานใช้หนี้ ดอกเบี้ยโหด
วันนี้ (14 มิ.ย. 67) นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้กรมการปกครองนำข้อมูลเบาะแสที่รับแจ้งจากมูลนิธิอิมมานูเอล (IMF) ว่ามีคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร มีการนำเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีมาค้าประเวณี โดยมีลักษณะให้เด็กสามารถออกไปนอกร้านกับแขกที่มาเที่ยวได้ ซึ่งจะพาไปยังโรงแรมที่พักแห่งหนึ่งในบริเวณใกล้เคียง จนเชื่อได้ว่าจะเป็นการค้าประเวณี
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า กรมการปกครอง ได้มอบหมายให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ส่งสายลับเข้าทำการสืบสวนหาข้อเท็จจริง ในคืนวันที่ 13 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 22.00 น. สายลับได้เข้าทำการสืบสวนที่ร้านแรดคาราโอเกะ บริเวณปากซอยลาดปลาเค้า 75 ถนนลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร และได้ทำการล่อซื้อ จึงพบว่ามีพฤติการณ์การกระทำความผิดตามที่ได้รับแจ้งจริง จึงได้รายงานมายังผู้บังคับบัญชา และชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ซึ่งตั้งกำลังสแตนบายเข้าปฏิบัติการบริเวณใกล้เคียง
“เมื่อสายลับแจ้งพฤติการณ์ที่เข้าข่ายการกระทำความผิด นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง จึงได้นำกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง โดยแบ่งกำลังเป็น 2 ส่วน ชุดแรก เข้าทำการช่วยเหลือผู้เสียหาย และชุดที่ 2 เข้าทำการจับกุมเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ที่ลักลอบเปิดให้บริการเป็นโรงแรม ซึ่งในเบื้องต้นพบว่า มีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 3 คน ที่ถูกแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ” นายอรรษิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติม
ด้าน นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กล่าวว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ได้รับมอบหมายจากนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ให้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงจากการรับแจ้งจาก IMF กรณีคาดว่ามีความผิดฐานค้ามนุษย์ ซึ่งการปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมและสร้างความสงบเรียบร้อยและความผาสุกให้กับสังคม
“จากการเข้าตรวจค้น พบเรื่องของการนำเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีมาแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ เข้าข่ายเป็นเรื่องของการค้ามนุษย์ โดยพบเด็ก 3 คน แบ่งเป็น เด็กหญิงที่มีอายุ 15 ปี จำนวน 2 คน และเด็ก LGBTQ+ อายุ 16 ปี อีก 1 คน และเราพบว่าคาราโอเกะแห่งนี้ มีการให้เด็กสามารถที่จะออกไปกับแขก และทางร้านรับส่วนแบ่ง มีข้อมูลที่น่าสนใจว่า เด็กหญิงทั้ง 2 ราย เดินทางมาจากต่างจังหวัด และมีการติดหนี้ทางร้านเพื่อที่จะเอาเงินไปรักษาแม่ และทางร้านเรียกอัตราดอกเบี้ยโหดถึงร้อยละ 10 ต่อวัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่หนักมาก และเด็กต้องจ่ายด้วยค่าตัว ค่าดริ้ง อย่างค่าดริ้ง ถูกหักร้อยละ 80 ต่อวัน ก็เป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก โดยกระบวนการหลังจากนี้ เราจะนำเด็กเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์ ตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM :National Referal Mechanism) เพื่อที่จะคัดกรองและคัดแยกโดยสหวิชาชีพ เพื่อที่จะดูว่าเด็กเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์หรือไม่
แต่เบื้องต้นพบว่า “เป็นแน่ ๆแล้ว” เพราะมีการนำเด็กไปที่อพาร์ทเม้นท์ ซึ่งดัดแปลงสำหรับประกอบธุรกิจโรงแรม โดยสามารถไปให้บริการทางเพศกับแขกได้ และเรากำลังขยายผลโรงแรมต่อว่า โรงแรมมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ เพราะเด็กไปเข้าโรงแรมนี้ประจำ เพราะเจ้าหน้าที่โรงแรมจะจดชื่อเล่นและเบอร์เด็ก ก็คือรู้จักกันแน่นอน มีการให้เด็กมาที่โรงแรมนี้เท่านั้น เหมือนกับเขาดิวกับทางร้าน และสายลับลองถามดูว่าสามารถไปโรงแรมอื่นได้ไหม เขาบอกว่าไม่ได้ ต้องโรงแรมนี้เท่านั้น ซึ่งจะได้มีการขยายผลต่อไป โดยสถานีตำรวจนครบาลบางเขนร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นอกจากนี้ จะมีการจับกุมโรงแรมด้วย เพราะตรวจสอบเบื้องต้นแล้วทางโรงแรมไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ในส่วนของข้อหาค้ามนุษย์ หรือจะมีส่วนสนับสนุนรู้เห็นกับการค้ามนุษย์หรือไม่นั้น อยู่ที่การสืบสวนสอบสวนขยายผล” นายรณรงค์ กล่าวเพิ่มเติม
นายรณรงค์ กล่าวต่ออีกว่า เบื้องต้น ผู้กระทำความผิดยอมรับแล้วว่าเป็นเจ้าของ และน่าจะจำนนต่อหลักฐานแล้ว เพราะมีหมายเลขธนบัตรที่เราเอาลงเป็นหลักฐานไว้เรียบร้อย ก็ปรากฏว่าอยู่ในร้านนี่แหละที่ใช้ในการซื้อประเวณีเด็ก และทางร้านได้รับส่วนแบ่ง ทั้งนี้ ที่เราทราบในเบื้องต้นเด็กมาไม่นานมากเท่าไหร่ โดยเด็กหญิง 2 คนมาจากจังหวัดเดียวกัน ส่วนเด็ก LGBTQ+ เรายังไม่ทราบว่ามาจากจังหวัดอะไร ซึ่งต้องรอกระบวนการ NRM
นายรณรงค์ กล่าวว่า ในเบื้องต้น พนักงานฝ่ายปกครองแจ้งข้อหา เจ้าของร้านแรดคาราโอเกะ มีความผิด 1. ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. ค้ามนุษย์ แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก 3. เป็นธุระจัดหา สำหรับการคัาประเวณี เด็กอายุกว่า 15 แต่ไม่เกิน 18 ปี 4. ส่งเสริมยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร 5. ส่งเสริมยินยอม ให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะ ลามกอนาจาร 6. จ้างงานเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยไม่แจ้งการจ้างต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 15 วัน และ 7. เป็นนายจ้างให้ลูกจ้าง อายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงาน ในเวลาระหว่าง 22.00 – 06.00 น. และในส่วนของเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ ถูกแจ้งข้อหาประกอบกิจการโรงแรม โดยไม่ได้รับอนุญาต
นอกจากนี้ สำหรับข้อหาสนับสนุนการค้ามนุษย์ หรือร่วมกันหรือไม่ อยู่ที่การสืบสวนสอบสวน และในส่วนของผู้ที่ดูแลแทนกันและรับเงินแทนกัน จะต้องมีการสอบปากคำ ถ้ามีการกระทำที่เข้าข่าย ก็ต้องโดนข้อหาเดียวกัน จึงขอย้ำเตือนไปยังผู้ประกอบการร้านคาราโอเกะ ตลอดจนสถานที่ที่แอบแฝงการค้าประเวณี หรือการนำเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีมาค้าประเวณี ว่า การค้ามนุษย์เป็นอาชญากรรมร้ายแรงที่ประชาคมโลกไม่ยอมรับและพยายามกำจัดให้หมดสิ้นไป
สำหรับเยาวชนทั้ง 3 คนที่ตกเป็นเหยื่อ ทางเจ้าหน้าที่จะนำเข้าสู่ขบวนการฟื้นฟูเยียวยา โดยจะเชิญสหวิชาชีพมาสอบข้อเท็จจริง ตามกระบวรการกฎหมายต่อไป