ตำรวจไซเบอร์ จับกุมล่ามบอสใหญ่แก๊งคอลเซนเตอร์ กัมพูชา
เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 พร้อมด้วยชุดสืบสวนนครบาล จับกุมตัว นายสุรชัย แซ่จาง หรือ อาฟู่ แซ่จาง อายุ 27 ปี ล่ามภาษาไทย-จีน คนสนิทบอสใหญ่มังกรจีน ตัวการสำคัญในขบวนการแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ พร้อมตั้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันฟอกเงินฯ” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่หน้าหอพักคนงาน บริเวณ ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
สืบเนื่องจากกรณีแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ที่ระบาดหนักในช่วงปี 2565 ยาวมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีการสร้างโปรไฟล์หนุ่มหล่อ สาวสวย ปลอมขึ้นมา ออกอุบายทำทีเข้ามาติดต่อพูดคุย ตีสนิทจนกลุ่มผู้เสียหายเชื่อ บางรายถึงขั้นหลงรัก ก่อนที่จะหลอกให้ร่วมลงทุนสูญเงินหลายล้านบาท สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.หัวหน้า PCT ชุดที่ 5 จึงนำชุด PCT5 เร่งติดตามสืบสวน ขยายผล จนสามารถออกหมายจับสมาชิกแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ และสามารถเข้าจับกุมเครือข่ายสมาชิกได้จำนวน 6 ราย ขยายผลจนทราบข้อมูลว่า ตัวการสำคัญ คือ นายสุรชัย ซึ่งทำหน้าที่แปลเทคนิค ขั้นตอนการเรียนรู้ การพูดจูงใจ สร้างแรงบันดาลใจในการนำมาใช้หลอกลวงเหยื่อ โดยเฉพาะจากบอสใหญ่ให้แก่พนักงานลูกจ้าง สร้างมูลค่าความเสียหายกว่า 16 ล้านบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่า นายสุรชัย มาทำธุระ ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงเข้าทำการควบคุมตัวและจับกุมส่งนำพนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ จ.ปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามเบื้องต้น นายสุรชัย ให้การภาคเสธว่า ประมาณปี 2564 นายสุรชัย พร้อมกับนายสุรจิต ซึ่งเป็นน้องชาย ได้สมัครงานผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อเป็นล่ามแปลภาษา จีน-ไทย ที่สีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ได้ค่าตอบแทนประมาณ 30,000-40,000 บาท เมื่อตนกับน้องชายเดินทางไปถึงกัมพูชา ปรากฏว่าถูกพาไปทำงานที่ ‘เกาะกง’ แทน โดยทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษาจีนจากหัวหน้าชาวจีน ไม่ทราบชื่อจริง แต่เรียกกันว่า ‘หยู่เกอ’ โดยตนจะทำหน้าที่ล่ามแปลคำพูดของนายหยู่เกอเป็นภาษาไทยให้กับพนักงานที่ทำงานที่นั่น
คนไทยที่ไปทำงาน เป็นงานในลักษณะคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงให้ลงทุนซื้อขายเงินสกุลดิจิทัล คริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งนาย หยู่เกอ เป็นคนสร้างแอปพลิเคชันปลอมขึ้น หลังจากที่นายสุรชัย ทำงานได้ 6 เดือน จึงหลบหนีกลับประเทศไทย และสร้างครอบครัว เปิดกิจการร้านเหล้า ณ ภูมิลำเนาของตนที่ ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่า แผนประทุษกรรมของแก็งค์สแกมเมอร์กลุ่มนี้ จะสร้างแพลตฟอร์มปลอมที่ชื่อว่า “surlars-pro” และ “biteeb” หลอกให้ลงทุนซื้อขายเหรียญคริปโตฯ จากนั้นนายหยู่เกอ จะให้นายสุรชัย และนายสุรจิต ทำหน้าที่ล่ามในการแปล สอนให้พนักงานสร้างโปรไฟล์ หนุ่มหล่อ สาวสวย หน้าตาดี ผ่านทางกูเกิ้ลหรือโปรแกรมมาริโอ้ที่สร้างไว้โดยเฉพาะ เช่น twitter 10-40 บัญชี Instragram จำนวน 1 บัญชี และ facebook 1 บัญชี
การสมัคร twitter จะมีระบบโปรแกรมที่สร้างไว้สุ่มเข้ามาพูดคุยและทักทายทำความรู้จัก ตีสนิทติดตามเหยื่อก่อน เมื่อเหยื่อรับเป็นเพื่อนและติดตามคนร้ายกลับมา จะมีข้อความที่ตั้งไว้ตอบกลับอัตโนมัติในลักษณะคำทักทายเป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง จนเหยื่อเริ่มพูดคุย จะเริ่มถามถึงสภาพคล่องทางการเงิน จนสามารถวิเคราะห์และประเมินได้ว่า เหยื่อมีรายได้และมีความสามารถในการลงทุน จึงชักชวนเหยื่อร่วมลงทุน พอเหยื่อลงทุนแล้ว จะให้โอนเงิน USDT เข้าไปใน แพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นปลอม หลอกลวงโดยสร้างกราฟปลอมแสดงกราฟขา หากเหยื่อจะถอนเงิน จะมีการเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมเพื่อจ่ายเป็นค่าภาษี
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ผบ.ตร.สั่งตรงให้ติดตามจับกุม อาฟู่ มือขวาบอสใหญ่ชาวจีน แก็งค์คอลเซ็นเตอร์ จุดเกาะกง กัมพูชา ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางการไทยต้องการตัวมาก ที่ผ่านมามีการเฝ้าติดตามตัวคนร้ายมาโดยตลอด เพื่อเป็นการตัดรากถอนโคนองค์กรอาชญากรรมแก๊งนี้ให้สิ้นซาก ทั้งนี้ประชาชนที่คิดจะไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านนั้น ต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า อาชีพหรือลักษณะงานที่จะทำนั้น เป็นในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ และขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อกลโกงที่ชักชวนลงทุน












