ศาลยกฟ้อง “คุณหญิงกอแก้ว กับพวก” ปลอมลายเซ็นโอนหุ้น
วันนี้ (5 ก.ค. 65) คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา ภรรยา พล.ต.อ.พจน์ บุณยะจินดา อดีตอธิบดีกรมตำรวจ กับพวก พร้อม ทนาย เข้าฟังคำพิพากษา ในคดีปลอมแปลงเอกสารหุ้น หมายเลขดำ อ. 2497/2561 ที่ นายเกษม ณรงค์เดช ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท KPN เป็นโจทก์ฟ้อง คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา , นายณพ ณรงค์เดช บุตรชายคนกลาง และนายสุทัศน์ จิรจรัสพร เป็นจำเลยที่ 1-3 ตามลำดับ ในความผิดฐาน “ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารสิทธิ” มูลค่าความเสียหายกว่า 2 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้ว เห็นว่า พยานผู้เชี่ยวชาญทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลย นำสืบทำนองเดียวกันว่า ลายมือชื่อของฝ่ายโจทก์ไม่ผิดแผกแตกต่างกันว่า เป็นลายมือปลอมหรือไม่ พยานโจทก์ที่นำสืบมีน้ำหนักน้อย น่าสงสัย จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย พิพากษายกฟ้อง
คุณหญิง กอแก้ว เปิดเผยว่า ที่เงียบมาตลอด ไม่ได้หมายความว่าผิด แต่ต้องการรอความชัดเจนจากกระบวนการของศาล ซึ่งในวันนี้ก็มีความชัดเจนออกมาแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายคดีที่ยังต้องต่อสู้กันต่อ ซึ่งเป็นมูลเหตุมาจากปัญหาเดียวกัน ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่ ขอกลับไปหารือกับครอบครัวและทีมทนายความก่อน พร้อมยืนยันว่า ตนไม่เคยเอาเปรียบหรือคดโกงใคร ความจริงก็คือความจริง
ด้านทนายความของนายเกษม เปิดเผยว่า นายเกษม ณรงค์เดช และครอบครัวณรงค์เดช ขอยืนยันข้อเท็จจริงตามคำฟ้องทุกประการ และจะใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งนอกจากคดีนี้แล้ว นายเกษมยังได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เพื่อดำเนินคดีกับนายณพ ณรงค์เดช และคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา กับพวก เกี่ยวกับการปลอมและใช้เอกสารปลอมอีกหลายฉบับ ซึ่งคดีดังกล่าว พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.1708/2564 แล้ว ศาลนัดสืบพยานในต้นปีหน้า
สำหรับคดีนี้ ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์แล้ว เห็นว่าคดีไม่มีมูลเพียงพอ ให้ยกฟ้อง จากนั้นโจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์ ต่อมา ศาลอุทธรณ์ได้พิจารณามีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นรับคดีไว้พิจารณา โดยจำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัวไป
ต่อมา พนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง คุณหญิงกอแก้ว กับพวก รวม 3 คนเป็นจำเลยต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ในความผิดฐาน “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม หุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง มูลค่านับหมื่นล้านบาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91, 264, 265, 268 ล่าสุดวันนี้ (5 ก.ค. 65) ศาลพิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้ยกฟ้อง
