‘พล.ต.ท.จิรภพ’ ยัน ไม่พบ ‘ส่วยสติ๊กเกอร์’ แล้ว

เชื่อมีคนกลางรับส่วยอีกทอดหนึ่ง หากพบผิดจริงจะดำเนินคดีต่อไป ย้ำ ระยะเวลา2-3เดือนที่ผ่านมาตำรวจทางหลวงปฎิบัติงานดีขึ้น

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงกรณีที่มีการร้องเรียนให้ตรวจสอบตำรวจทางหลวง หลังพบว่ามีการจ่ายเงินเพื่อแลกกับการบรรทุกน้ำหนักเกินตามจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งมีสัญลักษณ์เป็นสติกเกอร์หลายรูปแบบ หรือที่เรียกว่า ‘ส่วยสติกเกอร์’ ซึ่งหลังจากที่ได้สั่งย้ายผู้บังคับการตำรวจทางหลวงไปแล้ว และให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ไปรักษาราชการแทนและตรวจสอบข้อเท็จจริง ยืนยันว่าขณะนี้ไม่พบว่ามีการจ่ายส่วยสติกเกอร์แล้ว ก่อนหน้านี้เชื่อว่าบางส่วนมีการกระทำความผิด

พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจาก พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ส่งมาให้อยู่ ซึ่งตำรวจทางหลวงได้ปรับเปลี่ยนการทำงานมากขึ้น เน้นทำงานสืบสวนจับกุมกับหน่วยอื่น ๆ เช่น การจับรถที่ขนยาเสพติด รถยนต์เถื่อน สวมป้ายทะเบียน การลักลอบค้ามนุษย์ เป็นต้น ส่วนการตรวจสอบข้อเท็จจริงยังมีอยู่ 3 ส่วน คือ ชุดตรวจสอบข้อเท็จจริงจากจเรตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบังคับการตำรวจทางหลวง หากพบความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างแน่นอน แต่การรับส่วยเชื่อว่ามีคนกลางที่รับและส่งไปยังหลายหน่วยที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่ออีกว่า ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ผลการปฏิบัติงานอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น มีผลงานการปราบปรามอาชญากรรมทางหลวงเพิ่มขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจับกุมรถเถื่อน การค้ามนุษย์ ป้ายทะเบียนปลอม และการปราบปรามยาเสพติด

สำหรับการพิจารณาบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจทางหลวงคนต่อไป ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงต้องต้องรอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ก่อนแล้วการแต่งตั้งผู้บังคับการจะเป็นลำดับถัดไป ปัจจุบันก็ยังทำงานร่วมกับรักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวงอยู่ ยังเป็นไปในทิศทางที่ดีและไม่มีการเปลี่ยนแปลง