CRIME

‘ชูวิทย์’ แฉทุนจีนจดทะเบียนนิติบุคคลไทย ฟอกเงิน – ประมูลงานรัฐ

‘ชูวิทย์’ แฉทุนจีนจดทะเบียนนิติบุคคลไทย ฟอกเงิน – ประมูลงานรัฐ ซัด ข้าราชการรู้เห็นแก๊ง ‘ใส่สูทปล้น’ จ่อร้อง ‘บิ๊กโจ๊ก’ ดำเนินคดี

วันนี้ (8 พ.ย. 65) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรครักประเทศไทย แถลงข่าวในหัวข้อ “ทุนจีนสีเทา ภาค 2 (ภาคพิสดาร)” ที่โรงแรม เดอะ เดวิส แบงคอก

นายชูวิทย์ กล่าวว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้ประเทศจีนมีการปราบปรามกลุ่มขบวนการทำธุรกิจผิดกฎหมายอย่างหนัก จนทำให้กลุ่มชาวจีนกระจายออกมาทำธุรกิจหลอกลวงประชาชนในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก ข้อมูลที่นำมาเปิดเผยวันนี้ เป็นการจัดตั้งบริษัทของนายทุนชาวจีน ที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย เพื่อฟอกเงินจากธุรกิจสีเทาโดยเฉพาะ

นายชูวิทย์ เปิดเอกสารรับรองการจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ของบริษัทแห่งหนึ่ง ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พบว่าจัดตั้งเป็นบริษัทนิติบุคคลตั้งแต่ปี 2543 โดยในครั้งแรกมีคนจีน และไทยร่วมเป็นกรรมการเพียง 2 คน ทุนจดทะเบียนแรกเริ่มอยู่ที่ 15 ล้านบาท จากนั้นมีการเปลี่ยนรายชื่อกรรมการบริษัทเป็นคนจีนเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมีเฉพาะคนจีนเป็นกรรมการบริษัท ทั้งหมด พร้อมทั้งเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 21 ล้านบาท ในปี 2546 จนเพิ่มทุนจดทะเบียนอีกครั้งเป็น 80 ล้านบาท ในปี 2549 จนถึงปัจจุบัน และมีกรรมการเป็นคนจีนทั้งหมด ไม่มีกรรมการคนไทยเหลืออยู่เลย โดยเปลี่ยนชื่อกรรมการบริษัททุกสัปดาห์

นายชูวิทย์ ยังเปิดหลักฐานการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างระหว่างบริษัทดังกล่าวกับหน่วยงานภาครัฐ โดยประมูลงานติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า และชนะการประกวดราคาเป็นเงินกว่า 90 ล้านบาท และยังชนะการประกวดราคากับหน่วยงานนี้มาแล้วหลายครั้ง แม้ว่าหลักเกณฑ์การพิจารณาจะกำหนดให้วัสดุที่จะนำมาใช้จะต้องได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมในประเทศไทยเท่านั้น

นายชูวิทย์ ชี้แจงว่า จะนำส่งหลักฐานเหล่านี้ให้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มทุนจีนที่เข้ามาเปิดบริษัทในไทยแบบนี้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนจีนเหล่านี้

แม้กลุ่มทุนจีนที่นำมาเปิดเผยนี้เป็นเพียงกลุ่มทุนเดียว แต่นายชูวิทย์ ยังกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันพบว่ามีการทำอยู่จำนวนมาก ที่ถือว่าผิดกฎหมายทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับผู้มีสิทธิ์ขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ซึ่งถือว่ากลุ่มทุนจีนกำลังเข้ามาครอบงำกิจการในไทยมากขึ้น จากเดิมที่บริษัทที่ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในไทยจะให้สิทธิ์คนไทยถือหุ้นมากกว่า แต่ปัจจุบันจากเอกสารจะเห็นได้ว่าคนจีนเข้ามาถือหุ้นและเป็นกรรมการบริษัททั้งหมดแล้ว พฤติกรรมของกลุ่มทุนจีนเหล่านี้จึงถือได้ว่าเป็นกลุ่ม “ใส่สูทปล้น”

เมื่อสอบถามถึงการรู้เห็นของข้าราชการ ต่อขั้นตอนการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นที่มีคนจีนเป็นกรรมการบริษัท นายชูวิทย์ ตอบว่า ไม่รับรู้ได้จริงหรือ ผลประโยชน์เหล่านี้เราเสียให้กับคนต่างด้าว แต่ผลประโยชน์เหล่านี้กลับไม่ได้ตกถึงคนไทยเลย

เรื่อง/ภาพ : ณัฐนนท์ เจริญชัย

Related Posts

Send this to a friend