เตรียมแจ้งข้อหาฟอกเงิน “ลูกศิษย์คนสนิทพระวันรัต”
เร่งสอบบัญชีอีก 3 วัดในอยุธยาและตราด หลังพบถูกโยกเงินรวมกว่า 170 ล้าน
พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้เร่งขยายผลตรวจสอบบัญชี นอกเหนือจากบัญชีของสมเด็จพระวันรัตและบัญชีของวัดบวรนิเวศราชวิหาร ซึ่งมีเงินหายไป190 ล้านบาท โดยพบว่ายังมีบัญชีที่ถูกโอนออกไปอย่างไม่ทราบที่มาอีก 3 บัญชี เป็นบัญชีของวัดวชิรธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 80 ล้านบาท วัดรัตนวราราม จังหวัดตราด 80 ล้านบาท และวัดคีรีวิหารจังหวัดตราดอีก 10 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 3 บัญชีเป็นเงินงบฯ สร้างและบูรณะวัด ชุดสืบสวนสอบสวนกองบังคับการปราบปรามอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินของแต่ละบัญชีว่า เกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินก้อนก่อนหน้านี้หรือไม่ เพราะคาดว่ายอดเงินที่ผู้ต้องหายกย่องออกไป น่าจะมีมูลค่ามากกว่า 190 ล้านบาท
ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยังเปิดเผยผลจากการเข้าตรวจค้นและยึดทรัพย์จากการสืบสวนสอบสวนเส้นทางการเงินของผู้ก่อเหตุร้ายดังกล่าว ว่า สามารถยึดทรัพย์สินได้กว่า 100 ล้านบาท พบว่าผู้ต้องหาไปกว้านซื้อรถหรู คอนโดมิเนียม มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท ส่วนทองรูปพรรณและเงินสดในบัญชี ได้ประสานให้ญาติและแฟนหนุ่มของผู้ต้องหาซึ่งรับโอนทรัพย์สินไป นำทรัพย์สินต่างๆมาคืน ซึ่งบุคคลต่างๆได้ทยอยนำทรัพย์สินมาส่งคืนให้ครบเกือบทั้งหมดแล้ว
ชุดสืบสวนสอบยังรวบรวมพยานหลักฐานจากเส้นทางการเงิน และสอบพยานบุคคลจำนวนมาก เพื่อเตรียมแจ้งข้อหาตามความผิด พรบ.ฟอกเงิน กับผู้ต้องหาด้วย แม้การสอบปากคำผู้ต้องหาในเบื้องต้น ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นเงินที่ได้มาจากความสนิทสนมส่วนตัว สมเด็จพระวันรัตเป็นผู้มอบให้ แต่จากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ พบว่าผู้ต้องหาอาศัยความใกล้ชิดเข้าไปบริหารจัดการทรัพย์สินต่างๆ ของสมเด็จพระวันรัต และกันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปเพื่อให้สะดวกต่อการก่อเหตุ โดยมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินออกจากบัญชีของสมเด็จพระวันรัตอย่างเป็นกระบวนการเกือบทุกบัญชี
