สืบนครบาล รวบหัวหน้าแก๊งรูดบัตรเครดิตขโมยจากนักท่องเที่ยว
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาล และ PCT5 เข้าจับกุม นายวรงค์ฤทธิ์ อายุ 46 ปี หัวหน้าแก๊งขโมยรูดบัตรเครดิตจากนักท่องเที่ยว พร้อมจับกุมหญิงสาวผู้ร่วมขบวนการอีก 2 ราย คือ น.ส.จิราภา อายุ 39 ปี และ น.ส.มนัสนันท์ นัยผ่องศรี อายุ 44 ปี ยึดของกลางเป็นยาเสพติด และอุปกรณ์ใช้รูดบัตรเครดิตหลายรายการ สามารถจับกุมได้ที่โรงแรมชื่อดังย่านรัชดา แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 67 เจ้าหน้าที่ขยายผลแก๊งล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติภายในวัดพระแก้ว พบว่ามีการนำบัตรเครดิตที่ลักมาไปรูดใช้ โดยกลุ่มผู้ลงมือเกือบทั้งหมดเป็น ‘ชาวต่างชาติ’ มีขบวนการที่เป็นคนไทยคอยสั่งการอีกที จึงสืบสวนจนพบหัวหน้าขบวนการในประเทศไทยคือ นายวรงค์ฤทธิ์ ทำหน้าที่หาคน เครื่องรูดบัตร นอกจากนี้ นายวรงค์ฤทธิ์ยังเป็นบุคคลตามหมายจับในข้อหาพยายามส่งออกยาเสพติดไปยังประเทศเกาหลีใต้
ต่อมาเจ้าหน้าที่แกะรอยจนทราบแหล่งกบดานของแก๊งดังกล่าว จึงนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งสามราย พร้อมตรวจยึดของกลางจำนวน 6 รายการ ประกอบด้วย ยาไอซ์ 3 ถุง จำนวนทั้งสิ้น 4.6 กรัม เครื่องรูดบัตรเครดิต 4 เครื่อง สลิปการใช้บัตรเครดิต 30 ใบ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง สมุดจดบันทึก 2 เล่ม และม้วนกระดาษสลิปโอนเงิน 1 ม้วน
ภายหลังการจับกุม พบหลักฐานว่าขบวนการนี้เตรียมฉ้อโกงธนาคารโดยวางแผนหาคนโปรโฟล์ดี มีคุณสมบัติไม่ติดเครดิตบูโร และต้องพร้อมโดนฟ้องล้มละลาย นำมาตกแต่งบัญชีให้สวยหรู เพื่อให้ธนาคารยอมปล่อยกู้ จากนั้นจะใช้วิธี “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” นอกจากนี้ ยังพบว่าเป็นขบวนการ ‘สวมตัวตน’ ให้กับชาวต่างชาติ โดยทั้งหมดเชื่อมโยงกับ อาเหว่ย “บอสคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน”
ในชั้นจับกุม นายวรงค์ฤทธิ์ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ช่วงปลายเดือน พ.ย. 66 ได้รู้จักกับ “อาเหว่ย” สัญชาติจีน บอสใหญ่คอลเซ็นเตอร์ โดยอาเหว่ยให้ตนเป็นคนประสาน ติดต่อ และจัดหาเครื่องรูดบัตรเครดิตจากร้านค้าทั่วไปให้แก่อาเหว่ย มีเพื่อนซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาเที่ยวในไทย อยากเปลี่ยนวงเงินในบัตรเครดิตที่ถืออยู่ให้เป็นเงินสดผ่านเครื่องรูดบัตร โดยอาเหว่ยตกลงจะให้ค่าตอบแทนร้อยละ 25-30 ของจำนวนเงินที่สามารถกดได้จากบัตร จนทราบว่าแท้จริงเป็นขบวนการนำบัตรเครดิตมาจากการขโมย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 1,600,000–3,000,000 บาท
