CRIME

‘ผบ.ตร.’ เผย เจ้าหน้าที่คุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

หลังเกิดเหตุใช้อาวุธปืนที่พารากอน ชม ศูนย์การค้านำแนวทางมาปฏิบัติ ป้องกันการสูญเสียได้ ระบุ ผู้ก่อเหตุมีอาการทางจิต ขาดการรักษา เร่ง สอบปากคำหาเหตุจูงใจต่อไป

วันนี้ (3 ต.ค. 66) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงเหตุการณ์การใช้อาวุธปืน ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุยังไม่สามารถให้การที่เป็นประโยชน์ได้ มีประวัติการรักษาทางจิตเวชที่โรงพยาบาลราชวิถี และพบว่ามีการขาดการรักษา ไม่ได้รับประทานยารักษาโรคตามที่แพทย์กำหนด ขณะนี้ไม่สามารถให้รายละเอียดในเรื่องของประวัติครอบครัว และแรงจูงใจที่ใช้ในการก่อเหตุได้ เพราะไม่อยากให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบในสังคม

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า สถานที่เกิดเหตุจากการตรวจสอบในเบื้องต้นเป็นการไล่ก่อเหตุ ตั้งแต่บริเวณชั้นเอ็ม ไล่ไปจนถึงชั้น 3 ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถเข้าควบคุมสถานการณ์ได้ และเข้าพื้นที่ได้ภายใน 5 นาที สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในเวลาต่อมา และขอชื่นชมศูนย์การค้า ที่ได้ใช้ยุทธวิธีที่ฝึกอบรมมาทำให้สามารถเอาตัวรอด และหาที่กำบังให้เกิดความปลอดภัยในขณะเกิดเหตุได้ และบริหารจัดการทุกอย่างได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนลำดับการก่อเหตุ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ในขณะนี้ยังต้องมีการรวบรวมรายละเอียดอย่างต่อเนื่อง และอยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ที่ชัดเจน โดยจะให้ทางโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้รายละเอียดในภายหลัง

ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า เป็น blank gun หรือโมเดลอาวุธปืน ที่ถูกดัดแปลงนำมาใช้กับกระสุนจริง แหล่งที่มาของปืน รวมถึงการนำอาวุธปืนเข้าไปในห้างสรรพสินค้าได้อย่างไรนั้น ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม

ส่วนจำนวนเสียชีวิต พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า เสียชีวิตบริเวณชั้น จี เป็นหญิงชาวจีน ส่วนผู้ถูกยิงอีก 1 คนเป็นชายชาวเมียนมา ยังไม่ทราบว่าถูกยิงที่ชั้นไหน ซึ่งไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลตำรวจในเวลาต่อมา

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวต่อว่า ผู้ก่อเหตุ ถูกควบคุมตัวไปที่ สน.ปทุมวัน เพื่อทำการสอบปากคำ โดยจะประสานทางสหวิชาชีพเข้ามาร่วมสอบปากคำด้วยเนื่องจากผู้ก่อเหตุยังเป็นเยาวชน และขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุ ซึ่งยังไม่สามารถติดต่อได้

ส่วนการสร้างความเชื่อมั่นในการท่องเที่ยวหลังเกิดเหตุการณ์นี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า ตำรวจทำทุกอย่างเพื่อป้องกัน และดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว รวมถึงนายกรัฐมนตรีได้กำชับ เรื่องมาตรการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ

Related Posts

Send this to a friend