ตำรวจนำ 2 ผู้ต้องหาทำแผนคดีฆ่าหั่นศพ เสี่ยรับเหมาก่อสร้าง ก่อนนำชิ้นส่วนไปเผาทำลายอำพรางคดี
ช่วงเช้าวันนี้ (3 มี.ค. 64) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน นำหมายค้นเข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านปูน 2 ชั้นภายในซอยกาหลง 5 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม หลังนางวาสนา เข็มทอง หรือจอย ภรรยาที่ก่อเหตุให้การว่า บ้านหลังนี้ ถูกใช้เป็นสถานที่ฆ่าหั่นศพ นายสุบิน สามี ก่อนจะให้หลานชายคนหนึ่งที่เจ้าตัวอ้างว่าเป็นลูกของพี่สาวเเท้ๆ ช่วยขับรถกระบะสีขาวของผู้ตาย นำชิ้นส่วนศพไปทิ้งเผาอำพรางในพื้นที่อำเภอบางปะอิน เเละ อำเภอวังน้อยจ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะนำรถกระบะผู้ตายไปจอดทิ้งที่ลานจอดรถของอพาร์ทเม้นท์เเห่งหนึ่ง ย่านซอยอัญชลี 4 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ. นนทบุรี
ต่อมาเวลา 14.30 น.พลตำรวจโทอำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 นำตัวผู้ต้องหา ทั้ง 2 คนมาชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ
โดยภายในบ้านที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจุดเเรกตามคำให้การของผู้ต้องหา เป็นบริเวณโถงชั้นล่างของตัวบ้าน ซึ่งผู้ต้องหาได้ใช้มีดแทงนายสุบิน จนเสียชีวิต ก่อนจะลากร่างผู้ตายเข้าไปในห้องน้ำ เเละชำเเหละร่าง เเบ่งเป็นชิ่นๆ ก่อนนำชิ้นส่วนร่างขึ้นรถกระบะของผู้ตาย
พลตำรวจโทอำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ระบุว่า ในวันเกิดเหตุ 28 กุมภาพันธ์ เวลา 22.00 น. นายสุบินได้ขับรถกระบะ เข้ามาที่บ้าน ในขณะที่นางสาววาสนา ภรรยาเเละนายเมฆหลานชาย อยู่ที่บ้าน ก่อนที่นายสุบิน เเละนางสาววาสนาจะมีปากเสียงกันภายในห้องโถงชั้นล่างของบ้าน ทำให้นายเมฆ หลานชายทนไม่ไหว หยิบมีดสปาต้านำมาเเทงเข้าไปที่ราวนมนายสุบิน 1 ครั้ง จนเสียชีวิต
นางวาสนา เเละนายเมฆ ได้นั่งปรึกษากันนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงตัดสินใจไปซื้อถุงดำที่ร้านสะดวกซื้อ ก่อนกลับนำมาร่างนายสุบินไปชำเเหละหั่นเป็นท่อนๆ ในห้องน้ำ จากนั้นนำชิ้นส่วนเเขนขาใส่ถุงดำ 1 ถุง ส่วนลำตัวห่อด้วยไวนิล แล้วมัดด้วยเชือกไนล่อน ส่วนศีรษะเเยกใส่ถุงดำอีก 1 ถุง จากนั้นได้ล้างทำความสะอาดคราบเลือดในที่เกิดเหตุเพื่อทำลายหลักฐาน
ก่อนที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 นำชิ้นส่วนขึ้นรถกระบะขับออกจากบ้านหลังเกิดเหตุ โดยมีนายเมฆเป็นคนขับ โดยได้แวะเติมน้ำมันที่ปั๊ม ปตท. ย่านรัตนาธิเบศ
จากนั้นนายเมฆได้ขับรถไปที่ถนน 347 ปทุมธานี-บางปะหัน อ.บางปะอิน ยกถุงดำที่บรรจุเเขนขา โยนทิ้งข้างทางเเละเผา ก่อนขับรถออกไปถนนสาย 356 บางปะอินทร์ – วังน้อย เพื่อนำถุงส่วนศีรษะไปทิ้ง จากนั้นนำชิ้นส่วนลำตัวไปทิ้งที่พื้นที่รกร้าง ทางเข้าโรงงานทำอิฐบล็อก อ.วังน้อย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ขับรถกลับมาที่ลานจอดเพื่อทิ้งรถไว้ที่อพาร์ทเม้นท์เเห่งหนึ่ง ในซอยอัญชลี 4 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ. นนทบุรี เเละพากันกลับมาที่บ้านเพื่อล้างทำความสะอาดคราบเลือดซ้ำอีกรอบ ก่อนที่นางสาววาสนา จะหลบหนีกลับไปอพาร์ทเม้นท์ที่อยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ ส่วนนายเมฆได้กลับไปที่บ้าน กระทั่งถูกจับกุมในที่สุดจากการตรวจสอบภายในบ้านหลังเกิดเหตุ พบคราบเลือด รวม 7 จุด ทั้งบริเวณห้องโถง กำเเพงบ้าน เก้าอี้ใต้โต๊ะ ที่ยังเช็ดทำความสะอาดไม่หมด เเละภายในห้องน้ำ ชั้น 1 ของบ้าน พบเชือกภายในบ้านซึ่งมีลักษณะตรงกันกับเชือกที่ใช้มัดศพไปทิ้ง ตำรวจได้เก็บเป็นหลักฐาน เเต่ยังไม่พบมีดสปาต้าที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายอ้างว่านำไปทิ้งในคลองแห่งหนึ่ง พื้นที่ จ.นนทบุรี
ตำรวจจึงได้เเจ้งข้อหานางสาววาสนาเเละนายเมฆร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว่ก่อน เเละร่วมกันปิดบัง ทำลายซ่อนเร้นอำพรางศพ