CRIME

ตร.แถลงผลการตรวจค้น สถานบันเทิง เชื่อมโยงนายทุนต่างชาติ 42

รองผบ.ตร. แถลงผลการปฎิบัติการตรวจค้น สถานบันเทิง และที่พัก เชื่อมโยงกลุ่ม นายทุนต่างชาติ 42 จุด ฟัน ตำรวจ 3 นาย เรียกรับผลประโยชน์ ช่วยเหลือทางคดี

วันนี้ (1 พ.ย. 65) เวลา 15:30 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. (ปป) พร้อมด้วย พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. (สส) และคณะ แถลงผลปฎิบัติการบุกตรวจค้น สถานบันเทิง อาคารที่พักของกลุ่มนายทุน และนอมินีต่างชาติ ทั่ง 35 จุด ทั่วประเทศ ซึ่งมีจุดที่สำคัญ เช่น

บ้านพักภายในซอยย่านสุขุมวิท ของนายเดวิด ที่ตำรวจ ระบุว่า เป็นผู้บริหาร Baby Face เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยึดรถยนต์หรูป้ายแดงจำนวนหลายคันไว้ตรวจสอบเอกสารความถูกต้อง นอกจากนี้ ตำรวจ ยังตรวจยึดเอกสารสำคัญ และโทรศัพท์มือถืออีกหลายรายการ

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังเข้าตรวจค้นสถานบันเทิงหลายแห่ง ประกอบด้วย ร้าน Asgars ประชาอุทิศ ห้วยขวาง, ร้าน Booze ประชาอุทิศ ห้วยขวาง, ร้าน Hollywood รัชดาฯ ห้วยขวาง, ร้าน K.Bangkok อาร์ซีเอ พลาซ่า ห้วยขวาง, ร้าน Space Plus อาร์ซีเอ พลาซ่า ห้วยขวาง, ร้าน Joy luck อาร์ซีเอ พลาซ่า ห้วยขวาง และร้าน Baby Face สุขุมวิท 62 เขตวัฒนา เพื่อหาหลักฐานมาประกอบการสืบสวนขยายผลกรณีที่ตำรวจเข้าตรวจค้นสถานประกอบการ Top One ร้านจินหลิง, Baby Face และ Club one พัทยา

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า จากการตรวจค้นบ้านของนายเดวิด หรือ ชื่อภาษาจีนว่า สุ่ย ไท่ เหว่ย ซึ่งเข้ามาอยู่เมืองไทยได้ประมาณ 10 ปี ตำรวจสามารถยึดรถยนต์หรู อาวุธปืน รวมทั้งสุราบุหรี่เถื่อน และเอกสารต่าง ๆ ไว้ตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังพบว่า ในห้องพักมีร่องรอยการใช้ยาเสพติดอยู่

อีกทั้ง ยังพบข้อมูลการแต่งงาน มีภรรยาเป็นคนไทย ซึ่งลูกเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศไทย และนายเดวิด ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ สถานบริการที่ผิดกฎหมาย และประวัติที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกด้วย

เบื้องต้น นายเดวิด ถูกตั้งข้อหา ช่วยซ่อนเร้น ช่วยกันจำหน่ายฯ ตามความผิดกฎหมายศุลกากร และความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติสรรพสามิต กรณียึดของผิดกฎหมาย ซึ่งประกอบไปด้วย รถยนต์และสุราผิดกฎหมาย

ในส่วนของข้อมูลการซื้อรถยนต์ของนายเดวิด พบว่า นายเดวิด นำเงินสดจำนวนหนึ่งไปฝากให้เพื่อนคนไทยซื้อ ซึ่งในประเด็นเหล่านี้ ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานว่า เข้าข่ายความผิดการกระทำลักษณะของกฎหมายการฟอกเงิน หรือไม่ รวมทั้งจะมีการตรวจสอบความเชื่อมโยงของนายเดวิด กับนายทุนจีน ที่ทำธุรกิจสถานประกอบการในพื้นที่ชลบุรี รวมถึงสถานประกอบการจินหลิง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลทราบแล้วว่า ผู้ใดเป็นเจ้าของ ซึ่งนายเดวิด ไม่ใช่เจ้าของจินหลิงตัวจริง

พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังเปิดเผยอีกว่า จากการตรวจค้นร้านจินหลิง ในพื้นที่ สน.ยานนาวา พบว่า มีตำรวจ 3 นาย ช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ต้องหา โดยเรียกรับผลประโยชน์ เพื่อเร่งให้มีการผัดฟ้องต่อศาล และได้รับการประกันตัวในชั้นศาล รวมถึงคืนรถยนต์ของกลางให้ผู้ต้องหา จึงให้ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.คมไพร ทองลาด รอง ผกก.จราจร สน.ลาดพร้าว ในความผิดฐานให้ขอให้ หรือ รับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด แก่เจ้าพนักงาน ในตำแหน่งตุลาการ พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี หรือ พนักงานสอบสวน เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำ หรือ ประวิงการกระทำ อ้นมิชอบด้วยหน้าที่

ส่วนนายตำรวจอีก 2 คน คือ พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ พิมมา พนักงานสอบสวน (สบ. 2) สน.ยานนาวา และ ร.ต.อ.สมยศ บุญณะแก้ว พนักงานสอบสวน (สบ. 1) สน.ยานนาวา ถูกดำเนินคดีฐานเรียกรับ หรือ ยอมจะรับทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือ ผู้อื่นโดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือ ละเว้นโดยมิชอบฯ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า กรณีที่การส่งฟ้องผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวต่างชาติ เมื่อผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวในชั้นศาล ตามขั้นตอน ต้องส่งตัวผู้ต้องหาชาวต่างชาติ ให้ไปอยู่ในการควบคุมของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แต่กรณีนี้ พนักงานสอบสวนไม่ได้ส่งตัวไป จึงถือว่ามีความผิด

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวถึงกรณีของ คลับวัน พัทยา โดยระบุว่า ตำรวจพัทยาได้ขอหมายจับนายนิติพัฒน์ หรือ โกเอี่ยว โชคชัยธนพร ที่อ้างว่า ตำรวจรับส่วย โดยจับนายนิติพัฒน์ ได้แล้ว อยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม เบื้องต้น พบว่ามีพฤติกรรมเป็นนอมินีทำธุรกิจแทน โดยตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนเพิ่มเติมว่า มีการออกเอกสารจาก กรมการปกครอง ให้กับนายนิติพัฒน์ ถูกต้องหรือไม่

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับเจ้าของจริง คือ นายหยู่ ฉาง เฟย ขณะเตรียมหลบหนีผ่านด่านไปยัง ประเทศลาว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดมุกดาหาร จึงควบคุมตัวไว้สอบสวนขยายผลต่อไป

ขณะนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ เนื่องจากพบว่า ผู้ต้องหาได้ขออนุญาตอยู่ในประเทศไทยในฐานะนักเรียน ซึ่งหากพบว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมีส่วนรู้เห็น หรือเอื้อผลประโยชน์ส่วนนี้ จะต้องมีการดำเนินการต่อผู้มีส่วนรู้เห็นทั้งหมด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นที่พักของ นักการเมืองไทย ที่เป็นอดีตรัฐมนตรี คนหนึ่ง แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย พร้อมยืนยันว่า ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทุกกรณีที่มีการพาดพิงถึง

ส่วนคดีตัดนิ้วที่พัทยา จับผู้ก่อเหตุได้คนหนึ่งอยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม เนื่องจากพบว่ายังมีผู้ร่วมก่อเหตุอีก 2 คนที่ยังหลบหนี ซึ่งกลุ่มนักผู้ต้องหาชาวจีน ที่ก่อเหตุคดีตัดนิ้ว ตำรวจมีข้อมูลว่าเกี่ยวข้องกับเครือข่าย Call Center และเกิดความขัดแย้งกันในกลุ่ม ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหานี้ไม่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่ม นายทุนจีนที่เปิดสถานประกอบการผิดกฎหมายประเภทอื่น

ด้าน พล.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ขอบคุณสื่อมวลชน และนาย ชูวิทย์ ที่ได้นำเสนอข้อมูล และนำข้อมูลมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งในวันที่ 8 พ.ย.นี้ จะเข้าพบกับฑูตประเทศจีน เพื่อหารือการหามาตราการการป้องกันชาวจีนที่มากระทำผิดในประเทศไทย รวมทั้งยังฝากเตือนไปยังสถานประกอบการ ดูแลเรื่องของยาเสพติด ให้พบเจอจะดำเนินการทางคดีให้ถึงที่สุด โดยหลังจากนี้จะมีการสืบสวน และตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่อขยายผลต่อไป

ขณะเดียวกันวันนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การแถลงข่าว และกล่าวชื่นชมการทำงานของตำรวจ ที่สืบสวนขยายผลหลังตัวเองเคยเปิดเผยข้อมูล กลุ่มนายทุนจีนที่ ทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย

Related Posts

Send this to a friend