BANGKOK

‘ชัชชาติ’ ไม่นิ่งนอนใจแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5

‘ชัชชาติ’ ไม่นิ่งนอนใจแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เผยมีเอกชนร่วมมือสั่งพนักงาน WFH แล้ว 33 แห่ง

วันนี้ (31 ม.ค.66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 หลังประชุมคณะผู้บริหาร ครั้งที่ 4/2566 ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ว่า สองวันนี้สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จะรุนแรงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศปิด มีการเผาชีวมวลด้านนอก ที่ผ่านมา กทม.ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดย 3 เดือนที่ผ่านมา มีการตรวจต้นตอฝุ่น ตรวจสถานประกอบการแล้ว 4,028 แห่ง สั่งปิด 7 แห่ง แพลนท์ปูนตรวจแล้ว 522 แห่ง ปรับปรุง 16 แห่ง สถานที่ก่อสร้างของสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร 399 แห่ง สำนักงานเขต 773 แห่ง ปิดให้ปรับปรุง 26 แห่ง ถมดิน 67 แห่ง ตรวจรถยนต์ควันดำ 60,000 คัน ห้ามใช้ 1,245 คัน ตรวจรถโดยสารประจำทาง 9,269 คัน ห้ามใช้ 43 คัน ตรวจรถบรรทุก 31,072 คัน ห้ามใช้ 135 คัน

กทม.ตรวจอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่พยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นคือ การพยากรณ์ฝุ่นให้มีความแม่นยำมากขึ้น เนื่องจากมีผลต่อการเตือนภัยประชาชน จึงได้เชิญผู้ที่ทำแพลตฟอร์ม AirBKK มาหารือปรับปรุงกระบวนการพยากรณ์ให้แม่นยำขึ้น ทั้งยังประสานกับปริมณฑล และต่างประเทศ เพื่อดูปัญหาการเผาชีวมวล

“วันนี้ และพรุ่งนี้ยังมีสภาพอากาศปิดอยู่ หลังจากวันที่ 3-4 ก.พ.สถานการณ์จะดีขึ้น ลมเปลี่ยนทิศไปลงทิศใต้ พาลมอากาศคุณภาพดีจากทะเลขึ้นมา คิดว่าสถานการณ์น่าจะบรรเทาลง 2 วันนี้เป็นช่วงที่ต้องระวังนิดหนึ่ง”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในระยะสั้นช่วงที่ฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน กทม.จะมีมาตรการบรรเทาผลกระทบให้ชาว กทม.อย่างไรบ้าง นายชัชชาติ กล่าวว่า ขอความร่วมมือบริษัทให้ Work From Home เพื่อลดการเดินทาง โดยปัจจุบันมีบริษัทให้ความร่วมมือแล้ว 33 แห่ง ทั้งนี้สำนักอนามัย ได้แจกหน้ากากอนามัยให้กลุ่มเปราะบางร่วมล้านชิ้น เปิดคลินิคฝุ่นใน 5 โรงพยาบาล ตรวจฝุ่นโรงงานอุตสาหกรรม รถควันดำ รวมทั้งป้องกันการเผาในกรุงเทพมหานคร และเขตจังหวัดข้างเคียง

ต้นตอฝุ่นมาจาก 2 เรื่อง ได้แก่ การเผาของรถยนต์ และการเผาชีวมวล โดย กทม.ควบคุมเข้มงวด หากพบการเผาชีวมวลจะเข้าไปดับทันที แต่หากเผาในต่างจังหวัดและพื้นที่อาเซียน ต้องขอความร่วมมือ ขณะที่เรื่องการเผาไหม้ของรถยนต์ ต้องร่วมมือกันหลายหน่วยงาน เช่น มาตรฐานน้ำมันที่เป็นเรื่องระดับชาติ การเปลี่ยนเป็นรถ EV กทม.สนับสนุนได้ระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นการวางแผนระยะยาว

ในแง่การกำจัดต้นตอ คงต้องขอความร่วมมือตามอำนาจที่มี ส่วนเชิงวิจัยต้องเอาให้ชัดว่า ตัวฝุ่นมาจากองค์ประกอบใดเป็นหลัก มาจากรถยนต์ หรือเผาชีวมวล เชื่อว่ามาจาก 2 ส่วน ยกตัวอย่างเขตหนองจอก-มีนบุรี ไม่มีรถยนต์ แต่ฝุ่นยังเยอะจากการเผารอบข้าง

ความเป็นไปได้ขอให้ตำรวจหยุดให้รถบรรทุกเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ต้องเอาให้แน่ใจจริง ๆ ว่า ฝุ่นมาจากรถบรรทุก ไม่เช่นนั้นผลกระทบทางเศรษฐกิจจะรุนแรง ไม่คุ้มกับผลที่ได้ การกำหนดมาตรการไม่ให้รถบรรทุกเข้ามา หรือหยุดการใช้ คงต้องให้ตอบโจทย์จริง ๆ เรามีโครงการนักสืบฝุ่น คอยวิเคราะห์ และหารือกับกรมควบคุมมลพิษอย่างต่อเนื่อง

นายชัชชาติ กล่าวทิ้งท้ายว่า การขอความร่วมมือให้ Work From Home เป็นประโยชน์ด้านสุขภาพของคนในบริษัท สุดท้ายอยู่ที่ว่า เขาให้ความร่วมมือหรือไม่ เราไม่มีอำนาจบังคับ

Related Posts

Send this to a friend