‘ชัชชาติ’ ย้ำ กทม. ยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ หลังน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายกตัวสูงขึ้น

‘ชัชชาติ’ ย้ำ กทม. ยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ หลังน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายกตัวสูงขึ้น สั่งเรียงกระสอบทรายป้องกัน ยัน บริหารจัดการดีขึ้น-ระบายน้ำออกสองฝั่ง

วันนี้ (6 พ.ย. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครว่า สถานการณ์น้ำท่วมยังไม่หมด สัปดาห์หน้ายังต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากต้องเจอกับน้ำทะเลหนุน ตอนนี้น้ำทะเลหนุนสูงสุดเนื่องจากอิทธิพลของพายุคัลแมกีทำให้เกิดคล้ายกับ Storm surge น้ำในทะเลจีนใต้และในอ่าวไทยสูงขึ้น วันนี้สูงกว่าเมื่อวานเกือบ 45 ซม. ทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายกตัวสูงขึ้น ประกอบกับมีการปล่อยน้ำเหนือ 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สูงที่สุดในปีนี้

ขณะเดียวกัน อิทธิพลของฝน ตอนนี้ร่องมรสุมลงมาอยู่ใต้กรุงเทพฯ เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาร่องมรสุมพาดผ่านกรุงเทพฯ จึงเกิดฝนตกหนัก แต่ตอนนี้ลมหนาวเริ่มดันลงมา หาก 3 น้ำ คือ น้ำทะเลหนุน น้ำเหนือ และน้ำฝน มาเจอกันก็ยังมีปัญหาอยู่

หัวใจสำคัญที่สุดของกรุงเทพฯ คือการเรียงกระสอบทรายซึ่งเป็นตัวป้องกัน เน้นวางจุดที่ยังมีความอ่อนแอ เพราะระดับน้ำอาจจะสูงขึ้น ได้สั่งการให้ทุกเขต และสำนักการระบายน้ำเน้นเรื่องความแข็งแรงของกระสอบทราย รวมถึงดูแลชุมชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ เช่น ชุมชนโรงสี ชุมชนวัดเทวราชกุญชรที่อาจมีน้ำรั่วซึมเข้ามาได้ และให้เน้นจุดก่อสร้าง เนื่องจากเจอปัญหาหลายจุดที่มีการทิ้งเศษวัสดุก่อสร้างลงไปในท่อระบายน้ำ เช่น บริเวณรามคำแหง ซึ่งมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยให้เขตกำชับจุดที่มีการก่อสร้าง

“ปริมาณน้ำในเขื่อนค่อนข้างสูง ถ้าเกิดพายุนี้เข้ามาอีกก็อาจจะต้องมีการเพิ่มการระบายน้ำ แต่ไม่ต้องตระหนกอะไร เพราะว่าเรามีการบริหารจัดการที่ดีขึ้น และมีการระบายน้ำออกทั้ง 2 ฝั่ง” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว