TECH

AWS ชี้ตลาดคลาวด์โตต่อเนื่อง บุคลากรเป็นที่ต้องการอีกมาก จับมือ สจล. ใช้ AWS Educate พัฒนานักศึกษา-หลักสูตร-หนุนสตาร์ทอัพไทย

ธุรกิจคลาวด์ เป็นธุรกิจที่จะมองข้ามไม่ได้เลย และเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ ข้อมูลจาก การ์ทเนอร์ บริษัทวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ คาดการณ์ว่าในปี 2020 ตลาดบริการคลาวด์สาธารณะจะเติบโตขึ้นถึง 17% โดยมีขนาดตลาดอยู่ที่ 266,400 ล้านเหรียญสหรัฐ

ตลาดโตต่อเนื่อง แต่บุคลากรยังมีไม่พอต่อความต้องการ  การพัฒนาบุคลากรมารองรับ และร่วมพัฒนาตลาดจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

นายวินเซนต์ คัวฮ์ หัวหน้าฝ่ายการศึกษา หน่วยงานด้านการวิจัย ธุรกิจสาธารณะสุข องค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร ประจำ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (AWS) ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและญี่ปุ่น กล่าวระหว่างการแถลงข่าวความร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีพระเจ้าเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ว่า การใช้งานระบบคลาวด์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย AWS เองมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2019 บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีรายได้รวมในปี 2019 ถึงประมาณ 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายวินเซนต์ คัวฮ์ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (AWS) ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและญี่ปุ่น

ผู้คน ธุรกิจ และองค์กรมีการใช้งานระบบคลาวด์กันเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเพื่อความบันเทิง และด้านธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการดูซีรีย์ผ่านการสตรีมมิ่ง การซื้อสินค้าออนไลน์ การใช้งาน Pinterest เพื่อดูภาพต่างๆ การใช้งานคลาวด์ในการทำงานขององค์กรต่างๆ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือมีบุคลากรในตลาดไม่เพียงพอต่อความต้องการ AWS จึงได้พัฒนาโครงการระดับโลกด้านการศึกษาอย่าง AWS Educate ขึ้นเพื่อเป็น Gateway ด้านความรู้และวิชาการ โดยเปิดกว้างให้สถาบันการศึกษา นักเรียน นิสิต นักศึกษา ได้เข้าถึงและใช้ประโยชน์ในการพัฒนาทักษะด้านไอที และด้านคลาวด์ของตนเอง โดยปัจจุบันมีสถาบันการศึกษากว่า 2,400 แห่งทั่วโลกเป็นสมาชิก รวมถึงสถาบันการศึกษาชั้นนำในประเทศไทย

“เราตั้งเป้าจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาทักษะ และสร้างบุคลากรด้านไอที และคลาวด์เข้าสู่ตลาดด้วยการแบ่งปันความรู้ และที่สำคัญคือการสร้างประสบการณ์ตรงในการใช้งานให้กับผู้ที่สนใจ โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่าให้กับสังคม ซึ่งหมายรวมถึงการต่อยอดไปสู่การพัฒนาในระดับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น co-creator หรือเป็นผู้ประกอบการ ไม่ใช่เพียงแค่การเป็นผู้ใช้งานธรรมดา ซึ่งเป็นปณิธานเดียวกันกับ สจล. ความร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีในการร่วมกันผลักดันให้ไปถึงจุดหมายที่ตั้งไว้” วินเซนต์ กล่าว

สถาบันการศึกษา ไม่ได้มีหน้าที่แค่ผลิตบัณฑิต หรือทำงานวิชาการ แต่เป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาประเทศ

ศาสตราจารย์ ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี (รักษาการ) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา สจล. เป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำที่มีบทบาทในการพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะ และความสามารถ  ปัจจุบัน ประเทศกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่เศรษฐกิจ และสังคมที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญ และทักษะในด้านคลาวด์ได้กลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนทำงาน จึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ทำงานร่วมกับ AWS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการคลาวด์แพลตฟอร์มที่ครอบคลุมและมีการนำไปใช้อย่างกว้างขวางที่สุดทั่วโลก เพื่อพัฒนาทักษะ และเพื่อเสริมสร้างทักษะใหม่ (reskill) ให้คนทำงานที่พร้อมสำหรับอนาคต

ศาสตราจารย์ ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

“ในโอกาสครบรอบ 60 ปี สจล. ต้องการจะก้าวข้ามทุกขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็นขีดจำกัดด้านศาสตร์และศิลป์ ขีดจำกัดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ไปจนถึงขีดจำกัดอื่นๆ โดยสถาบันมุ่งเน้นการเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาจราจร ปัญหาด้านมลพิษ และปัญหาด้านอาชญากรรมต่างๆ”

 

“เราตั้งเป้าจะผลักดันและสนับสนุนให้คนไทยก้าวไปถึงระดับได้รับรางวัลโนเบล เราจะก้าวข้ามทุกขีดจำกัด เรามีมหาวิทยาลัยสำหรับเด็ก เรามีการเรียนการสอนสำหรับผู้ใหญ่ที่สนใจองค์ความรู้แต่ละเรื่อง โดยเราจะเชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่างๆ มาเป็นวิทยากร เรามองถึงการมี Global Office ที่ Silicon Valley โดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงประเทศ พัฒนาคุณภาพบุคลากรในประเทศ และที่สำคัญคือการร่วมกันแก้ปัญหาของประเทศ เพราะเราเชื่อว่าทุกปัญหาแก้ไขได้หากทุกคนร่วมมือกัน” ศาสตราจารย์ ดร. สุชัชวีร์ กล่าว

สำหรับความร่วมมือระหว่าง สจล. และ AWS ครอบคลุมในสามส่วนหลัก ได้แก่

  • การนำคอนเท้นต์ทางด้านคลาวด์ของ AWS Educate และ AWS Academy มาใช้ในหลักสูตรการศึกษาของมหาวิทยาลัย
  • การนำเทคโนโลยีคลาวด์ของ AWS มาใช้ในโครงการวิจัยและพัฒนาของสจล. ด้วยการใช้บริการระดับสูง อาทิ ปัญญาประประดิษฐ์ ( AI) อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) และแมชชีน เลิร์นนิ่ง (ML) ในการแก้ปัญหาความท้าทายทั้งทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ
  • การเป็นศูนย์ให้ความรู้ในด้านวัตกรรมดิจิทัลสำหรับกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพทั่วประเทศไทย

 

ทั้งนี้ สจล. จะใช้หลักสูตรและเนื้อหาจาก AWS Educate ซึ่งเป็นโครงการทางการศึกษาระดับโลกของ AWS ที่จะช่วยให้อาจารย์ นิสิต นักศึกษามีเนื้อหาและเครื่องมือต่างๆ ที่จะช่วยเสริมให้การเรียนรู้เกี่ยวเนื่องกับคลาวด์ เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว และเพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับคนทำงาน (workforce) สำหรับอนาคต นอกจากนี้ สจล. ยังเข้าร่วมในโครงการ AWS Academy โครงการที่ให้หลักสูตรด้านคลาวด์ คอมพิวติ้งกับสถาบันการศึกษาระดับสูงเพื่อช่วยตรียมความพร้อมให้กับนิสิต นักศึกษา เพื่อให้ได้รับใบรับรองต่างๆ ที่เป็นที่ยอมรับของอุตสาหกรรมและเพื่อให้ได้รับตำแหน่งงานตามที่ต้องการ โดยโครงการดังกล่าวจะช่วยลดช่องว่างระหว่างภาคอุตสาหกรรมและมหาวิทยาลัยลงอีกด้วย

AWS DeepRacer รถย่อส่วนไร้คนขับที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้นักพัฒนาได้ลองใช้ระบบการเรียนรู้แบบเสริมกำลัง

“เรามีความยินดีและภาคภูมิใจที่ได้ร่วมกับสจล. เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับนักศึกษาที่จะเป็นกำลังสำคัญในอนาคตรวมถึงคนทำงานที่ต้องการพัฒนาทักษะของตนเองเพิ่มเติมใดยใช้  AWS Cloud ทั้งนี้ นิสิต นักศึกษาและผู้สอนจะสามารถเข้าถึงบริการคลาวด์ที่กว้างขวางที่สุดและลึกที่สุด รวมถึงเทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) แมชชีน เลิร์นนิ่ง (ML) การรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ การวิเคราะห์บิ๊ก ดาต้า (Big data analysis) ตลอดจนถึง IoT  และอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งหมดนี้จะช่วยบ่มเพาะความสามารถของเยาวชนที่มีความสามารถในการแสวงหาสิ่งที่เป็นนวัตกรรมอันเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ก้าวหน้าต่อไป” วินเซนต์ กล่าวทิ้งท้าย

Related Posts

Send this to a friend