ดีอี เปิด 10 ข่าวปลอมคนสนใจสูงสุด เตือนอย่าเชื่อข่าวลือ
วันนี้ (29 พ.ย. 68) นางสาวสุชาดา ซาง แทนทรัพย์ โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย ระหว่างวันที่ 21 – 27 พฤศจิกายน 2568 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมดกว่า 1 ล้านข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องตรวจสอบ 1,133 ข้อความ รวม 254 เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข่าวเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล ความมั่นคง ภัยพิบัติ และอาชญากรรมออนไลน์
สำหรับข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่ 1.เรื่อง กัมพูชาส่งทหารเพื่อยึดพื้นที่บริเวณ ภูมะเขือ ปราสาทตาควาย และปราสาทนา 2.เรื่อง เขื่อนแตก บริเวณน้ำตกไพรสวรรค์ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง 3.เรื่อง ผู้สูงอายุ 14.5 ล้านคน เตรียมรับเงินอุดหนุนพิเศษเข้าบัญชี 3,000 บาท โดยไม่ต้องลงทะเบียน 4.เรื่อง รัฐบาลเพิ่มเงินอุดหนุนพิเศษให้ผู้สูงอายุ เริ่มจ่ายวันที่ 1 ธ.ค. 68 5.เรื่อง พายุแม่เหล็กโลก ส่งผลให้ร่างกายและสมองทำงานผิดปกติ 6.เรื่อง เฮลิคอปเตอร์ตก ขณะบินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ 7.เรื่อง ศพทหารไทยถูกปล่อยทิ้งไว้ที่หมู่บ้านเปรยจัน 8.เรื่อง ปปง. เปิดบัญชี TikTok ชื่อ amlo1710 ให้ประชาชนติดต่อรับเงินคืน 9.เรื่อง OR เปิดโอกาสการลงทุน เปิดพอร์ตเริ่มต้น 1,260 บาท รับปันผล 441 บาท/วัน ที่เพจ AMZ.Initial Public Offering 10.เรื่อง กระทรวงยุติธรรม เปิดเพจ Online Protect human rights ช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกหลอกลวงออนไลน์
นางสาวสุชาดา กล่าวถึงข่าวอันดับ 1 เรื่องกัมพูชาส่งทหารยึดพื้นที่ภูมะเขือและปราสาทตาควาย ว่า กระทรวงดีอีประสานงานกับทีมโฆษกกองทัพบก ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่เป็นความจริง โดยข่าวดังกล่าวไม่มีหลักฐานอ้างอิงและอาจสร้างความแตกตื่นในสังคม
ส่วนข่าวอันดับ 2 เรื่องเขื่อนแตกบริเวณน้ำตกไพรสวรรค์ จ.ตรัง จากการตรวจสอบร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พบว่าเป็นข้อมูลบิดเบือน โดยโครงสร้างที่เสียหายในพื้นที่ดังกล่าวคือ “ฝาย” ไม่ใช่เขื่อน และฝายไม่ได้แตก แต่เกิดจากน้ำทะลักออกด้านข้างเนื่องจากปริมาณน้ำไหลหลาก ซึ่งสถานการณ์ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด
โฆษกกระทรวงดีอี กล่าวเตือนประชาชนว่า อย่าหลงเชื่อข่าวปลอมเพราะอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดและวิตกกังวล รวมถึงเสี่ยงต่อการสูญเสียทรัพย์สินและข้อมูลส่วนบุคคล หากพบข่าวน่าสงสัยสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 1111 ต่อ 87 ตลอด 24 ชั่วโมง












