TECH

งาน Apple Event ตอกย้ำ “Peek Performance” แรงที่สุด พีคที่สุด เร็วที่สุด

งาน Apple Event เดือนมีนาคม กับ tagline “Peek Performance” ทิ้งปริศนาไว้ให้ผู้ชมและบรรดาสาวก Apple ได้ลุ้นกัน แม้ว่าจะมีการหลุดมาเยอะแยะมากมายก็ตาม โดยเปิดตัว iPhone SE รุ่นใหม่ รองรับ 5G, Mac Studio เป็น Mac แบบตั้งโต๊ะ และ iPad Air รุ่นใหม่

สำหรับงานนี้มีการเปิดตัวชิป M1 Ultra ซึ่งสะท้อนสุดยอดของประสิทธิภาพชิปที่แรงที่สุดบน Mac Studio ตอกย้ำ “Peek Performance” กับชิปประมวลผล 20-Core M1 Ultra ที่เรียกได้ว่า แรงที่สุด ทรงพลังที่สุด เร็วที่สุดในอุตสาหกรรม ณ ปัจจุบัน โดย Apple M1 Ultra แรงกว่า ดีกว่า เร็วกว่า พีคกว่า M1 Max และ M1 Pro ซึ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว ดังนั้นในตระกูล M1 จึงมีชิป M1, M1 Pro, M1 Max และ M1 Ultra ซึ่งมีข้อดีคือ ในแง่เทคนิค ชิป M1 Ultra สามารถรีดประสิทธิภาพได้แรงที่สุดด้วยการใส่ CPU 2 ตัวเข้าไปในแผงวงจร โดยเชื่อมระหว่างชิปด้วย UltraFusion ทำให้ Apple M1 Ultra เป็นชิปที่เชื่อมกันระหว่างหน่วยประมวลผลสองตัวได้เร็วที่สุด มีแบนด์วิธที่มากที่สุด และแรงกว่าชิปตัวอื่นๆ ที่เคยเปิดตัวมา ข้อดีของชิป M1 Ultra เรียกได้ว่าแรงที่สุด เรนเดอร์วีดีโอเร็วขึ้น 4 เท่า ทุกอย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด โดยชิป M1 Ultra คือการรวม multi-die ที่เรียกว่า UltraFusion แบนด์วิธ 2.5 TB/วินาที มี 114 พันล้านทรานซิสเตอร์ เร็วกว่า M1 ถึง 7 เท่า เนื่องจากมีสองชิปในหนึ่งเดียว

Mac Studio หน้าตาคล้ายกับ Mac mini มีรุ่นที่ใช้ชิป M1 Max และ M1 Ultra แรงกว่า iMac 27 นิ้ว ถึง 3.8 เท่า

โดย Mac Studio รุ่น M1 Max วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 69,900 บาท และรุ่นที่ใช้ชิป M1 Ultra เริ่มต้น 139,900 บาท

Studio Display จอ 27 นิ้ว แสดงผล 5K ความสว่าง 600 nits มีกล้องหน้าเว็บแคม 12MP พร้อมไมค์ 3 ตัว ลำโพง 6 ตัว รองรับ Spatial Audio สำหรับรุ่นที่ใช้ชิป Apple M1 Ultra ใช้ CPU 20-core และ GPU  64-core บน Neural Engine 32-core หน่วยความจำ 128GB สั่งซื้อ จอ Studio Display ได้แล้ววันนี้ ทาง apple.com/th/store 

Studio Display วางจำหน่ายในราคา 54,900 บาท สำหรับรุ่นมาตรฐาน และเลือกกระจก Nano-texture และฐานตั้งแบบต่างๆ (จ่ายเพิ่ม) ได้ที่ apple.com/th/store  แต่ทั้งนี้ Mac Studio มีเฉพาะตัวเครื่อง ไม่มีจอ คีย์บอร์ด เม้าส์ แต่หากคุณมีจออยู่แล้วก็สามารถใช้งานร่วมกันได้ หรือหากมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Apple อยู่แล้วก็สามารถซื้อเฉพาะตัวเครื่องมาให้งานได้

นอกจากนี้ยังได้เปิดตัว Apple Magic Keyboard สี black & silver และ Trackpad กับ Mouse เอาใจสายจัดโต๊ะคอมให้เอาไปใช้คู่กับ Mac Studio โดย Magic Keyboard พร้อม Touch ID แบบมีปุ่มตัวเลข (สำหรับ Mac รุ่นที่มี Apple Silicon) ราคา 6,590 บาท, Magic Keyboard พร้อม Touch ID (สำหรับ Mac รุ่นที่มี Apple Silicon) ราคา 4,890 บาท, Magic Mouse พื้นผิว Multi-Touch รุ่นใหม่ ราคา 3,190 บาท และ Magic Trackpad พื้นผิว Multi-Touch รุ่นใหม่ ราคา 4,890 บาท และในอนาคต Apple กำลังจะวางแผนเปิดตัว อุปกรณ์สวมใส่ Apple glasses หรือ Apple VR/AR headset อดใจรอในงาน WWDC 2022 เร็วๆ นี้

นอกจากนี้ Apple Event ยังได้เปิดตัว สีใหม่ของ iPhone 13 โดย iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max สีเขียวใหม่ alpine green ส่วน iPhone 13 และ iPhone 13 mini สีเขียวใหม่ Green  ถ้าดูจากภาพ สีเขียวจะต่างกัน ในไทยสั่งซื้อล่วงหน้า วันที่ 18 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 9.00 น. และเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 25 มีนาคมนี้ ในรุ่น 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB โดย iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ราคาเริ่มต้นที่ 38,900 บาท และ 42,900 บาท ตามลำดับ ส่วน iPhone 13 และ iPhone 13 mini มีวางจำหน่ายในรุ่น 128GB, 256GB และ 512GB ราคาเริ่มต้น 29,900 บาท และ 25,900 บาท ตามลำดับ

ต่อด้วย iPhone SE รุ่นใหม่ รองรับ 5G ใช้ชิป A15 Bionic และ iPad Air 5 ใช้ชิป M1 และตอบโจทย์คนทำคอนเทนต์ ตัดต่อวีดีโอด้วย Mac Studio เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กจิ๋ว เอามาต่อจอ คีย์บอร์ด เม้าส์ อีกที ใช้ชิป M1 Ultra ตัวใหม่แรงสุด ผสาน 2 ชิปในหนึ่งเดียว นอกจากนี้ยังเปิดตัว Apple Studio display เป็นจอ 5K ขนาด 27 นิ้ว ราคาถูกกว่าจอ Pro XDR

iPad Air 5 ใช้ชิป M1 รองรับ 5G กล้องหน้ารองรับเทคโนโลยี Center Stage ขยับหน้า คอ ไปทางไหนก็ติดตามใบหน้าไม่หลุดเฟรม มีรุ่นความจุ 64GB และ 256GB สีเทาสเปซเกรย์ สีสตาร์ไลท์ สีชมพู สีม่วง และสีฟ้า ใช้ปากกา Apple Pencil (รุ่นที่ 2) และใช้งานร่วมกับ Magic keyboard ได้ด้วย 

iPad Air ใหม่จะเปิดให้สั่งซื้อเร็วๆนี้ ทาง apple.com/th/store โดย iPad Air รุ่น Wi-Fi ราคาเริ่มต้น 20,900 บาท และ รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาเริ่มต้นที่ 25,900 บาท

หลังดูงานเปิดตัวจบ ก็ได้คำตอบของ Peek Performance สะท้อนความพีคของความแรงผ่านการเปิดตัวชิป M1 Ultra และนำมาใช้บน Mac Studio และหน้าจอ Studio Display ที่รองรับการทำงานใน Studio มืออาชีพ เน้นกลุ่มคนทำคอนเทนต์ ทำวีดีโอจริงจัง การทำวีดีโอความละเอียดสูงๆ ต้องพึ่งชิปแรงๆ และการอัปเกรดของ iPad Air, iPhone SE ที่รองรับ 5G และกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เปิดตัวก็ล้วนแต่ ใช้ชิป M1 และสีใหม่ของ iPhone 13 Series กำหนดเทรนด์สีมือถือปีนี้เลยทีเดียว ส่วน iPhone SE นี่เตรียมจองเครื่องได้เลย คิดว่ารอบนี้ Apple คงได้โกยเงินในกระเป๋าคุณได้แน่นอน

Related Posts

Send this to a friend