PUBLIC HEALTH

เตือน กินปลาน้ำจืดเกล็ดขาว สุก ๆ ดิบ ๆ เสี่ยงโรคพยาธิใบไม้ตับ สาเหตุโรคมะเร็งท่อน้ำดี

วันนี้ (19 เม.ย. 67) นายแพทย์วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ และโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคพยาธิใบไม้ตับ และโรคมะเร็งท่อน้ำดี เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ โดยประเทศไทยพบผู้ป่วยสูงในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดว่าคนไทย 6 ล้านคน (ร้อยละ 10) ตรวจพบพยาธิใบไม้ตับ ขณะที่คนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี คิดเป็น 24.7 ต่อแสนประชากร

โรคพยาธิใบไม้ตับ มีสาเหตุจากการรับประทานปลาน้ำจืดเกล็ดขาว เช่น ปลาตะเพียนทุกชนิด ปลาขาวนา ปลาแก้มช้ำ ปลาสร้อย ปลาซิว ปลากระสูบ โดยนำมาปรุงแบบสุก ๆ ดิบๆ ซึ่งปลาดังกล่าวมักมีตัวอ่อนระยะติดต่อของพยาธิใบไม้ตับอยู่ เมื่อพยาธิใบไม้ตับสะสมในร่างกายในระยะเวลานาน จะทำให้ท่อน้ำดีเกิดการอักเสบ ผนังท่อน้ำดีหนาขึ้น พัฒนาต่อเป็นมะเร็งท่อน้ำดีในเวลาต่อมา

นายแพทย์วีรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ให้ตระหนักถึงการรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ โดยเฉพาะอาหารที่ใช้ปลาน้ำจืดเกล็ดขาวปรุงดิบ นอกจากนี้ การใช้ของเปรี้ยว เช่น มะนาว มะขาม มาปรุงอาหาร ไม่สามารถฆ่าพยาธิได้ ดังนั้น ควรป้องกันด้วยวิธีดังนี้

1.ไม่รับประทานปลาน้ำจืดเกล็ดขาวดิบ หรือ สุก ๆ ดิบ ๆ ให้ปรุงโดยผ่านความร้อนให้สุกก่อน

2.ถ่ายอุจจาระลงในส้วม ไม่ถ่ายลงในแหล่งน้ำ

3.หากเคยรับประทานปลาดิบ ควรตรวจอุจจาระหาไข่พยาธิตามสถานบริการสาธารณสุข หากมีพยาธิให้รักษาด้วยยาและงดรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ

4.ไม่หัดให้เด็ก หรือชักชวนผู้อื่นรับประทานอาหารดังกล่าว

ทั้งนี้ หากเริ่มมีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด ท้องอืด ตับโต อาหารไม่ย่อย จุกเสียด แน่นท้องที่ใต้ชายโครงขวา มีอาการรู้สึก ‘ออกร้อน’ ที่ผิวหนังหน้าท้องด้านขวาหรือที่หลัง ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ ที่สำคัญคือเน้นการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับ ส่งเสริมให้ประชาชนรับประทานอาหารเมนูปลาดังกล่าวที่ปรุงสุกด้วยความร้อน ล้างมือ ล้างผักให้สะอาดก่อนรับประทาน ถ่ายอุจจาระในที่ถูกสุขลักษณะทุกครั้ง และตรวจหาไข่พยาธิปีละ 1 ครั้งทุกปี

Related Posts

Send this to a friend