PUBLIC HEALTH

ศบค.เคาะแนวทางฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น “แอสตร้าฯ-ไฟเซอร์” เป็นวัคซีนหลัก

วันนี้ (15 ม.ค. 65) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การฉีดวัคซีนของประเทศไทยว่า ล่าสุด คนไทยฉีดวัคซีนแล้วรวม 108,916,435 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 เพิ่มขึ้น 56,398 ราย คิดเป็นร้อยละ 71.8 ของจำนวนประชากรทั้งหมด เข็มที่ 2 เพิ่มขึ้น 144,824 ราย คิดเป็นร้อยละ 65.9 ของจำนวนประชากรทั้งหมด และเข็มที่ 3 เพิ่มขึ้น 401,265 ราย คิดป็นร้อยละ 13.5 ของจำนวนประชากรทั้งหมด

ศบค. ยังได้ออกประกาศแนวทางการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่ประชาชน โดยผู้ที่ถึงกำหนดรับวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือบูสเตอร์โดส สำหรับผู้ที่เคยได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เป็นซิโนแวค และเข็มที่ 2 เป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ช่วงระหว่างเดือน ส.ค. 64 – ต.ค. 64 ให้ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเป็นเข็มกระตุ้น ส่วนผู้ที่เคยได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 เป็นวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ช่วงระหว่างเดือน ส.ค. 64 – ต.ค. 64 ให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มกระตุ้น ส่วนผู้ที่เคยรับวัคซีนชนิดเชื้อตายครบ 2 เข็ม ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป ให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า

กรณีผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 ให้ฉีดกระตุ้นด้วยวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบเกณฑ์ หรือครบตามเกณฑ์น้อยกว่า 2 สัปดาห์ ก่อนการติดเชื้อ ทั้งนี้ สามารถใช้สูตรอื่นที่ผ่านการรับรองทางวิชาการได้ ภายใต้จำนวนวัคซีนที่มีในพื้นที่

ด้านนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในเดือนมกราคมนี้ กระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าการฉีดวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 9 ล้านโดส ขณะนี้ผ่านไปได้ครึ่งทาง และเมื่อติดตามประเมินผลประสิทธิภาพของวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการวัดผลในพื้นที่จริง พบว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพดีมากในการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตจากโรคโควิดทุกสายพันธุ์ได้ถึง 90-100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งการฉีดสูตรปกติ สูตรไขว้ หรือบูสเตอร์โดส และยังสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ดีพอสมควร แต่สิ่งที่สำคัญคือ ระยะเวลาในการฉีดวัคซีน หากผ่านพ้น 3 เดือนไปแล้วประสิทธิภาพจะค่อยๆ ลดลง เพราะฉะนั้น การได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือบูสเตอร์โดสจึงเป็นเรื่องสำคัญ

จากข้อมูลบ่งชี้ว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็ม 3 ทั้งสูตรแอสตร้าเซเนก้าและไฟเซอร์ มีประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด19 สายพันธุ์โอมิครอนได้มากถึง 80-90 เปอร์เซ็นต์จากการระบาดที่จังหวัดกาฬสินธุ์

Related Posts

Send this to a friend