อย. แจงกรณี ‘ทักษิณ’ ชี้ มีการนำเข้าวัคซีน Pfizer ในไทยแล้ว ยืนยันยังไม่พบว่ามีการนำเข้าแต่อย่างใด และบริษัทก็ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนยา

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (4 พ.ค. 64) ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมวงสนทนาผ่านแอปพลิเคชัน Club House ในช่อง CARE Clubhouse x CARE Talk: คิดเคลื่อนไทย พลิกฟื้นวิกฤติโควิด กับ Tony Woodsome โดยมีการพูดคุยกันถึงสถานการณ์โควิด-19 และการบริหารจัดการแก้ปัญหาดังกล่าวในประเทศไทย

โดยช่วงหนึ่งของการสนทนา ทักษิณ ได้กล่าวถึงการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทยว่า วันนี้เท่าที่ทราบ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุมัติวัคซีนจาก 4 บริษัท แต่ไม่มี Pfizer ซึ่งหากเข้าไปดูเว็บไซต์ ประเทศไทยมีเอาวัคซีน Pfizer เข้ามาแล้ว ไม่รู้เท่าไร แต่ว่าเอาเข้ามาแล้ว ไม่มาก คงใช้กันไม่กี่คน

หลังจากนั้น ได้มีสมาชิกในห้องสนทนาดังกล่าว ถามทักษิณว่า ข้อมูลการนำเข้าวัคซีน Pfizer นี้มาจากที่ไหน ทักษิณกล่าวว่า มาจากเว็บไซต์ โดยดูจากแผนที่ประเทศ ถ้ามีสีเหลืองขึ้นคือเอาเข้ามาแล้ว แต่เขาเขียนว่าเป็นกรณีฉุกเฉิน แสดงว่าเอาเข้ามาไม่มาก ก็มีหลักฐานอยู่

ภายหลังการตรวจสอบ คาดว่าข้อมูลดังกล่าว มีที่มาจากเว็บไซต์ของ The New York Times ที่มีการระบุถึงข้อมูลประเทศต่างๆ ที่อนุมัติวัคซีนแต่ละยี่ห้อแล้ว โดยแสดงให้เห็นเป็นแผนที่ประเทศ ซึ่งประเทศไทย มีสถานะเป็นสีเหลือง หมายความว่า มีการนำวัคซีนเข้ามาใช้แล้วอย่างจำกัดหรือเป็นการใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น

ล่าสุด วันนี้ (5 พ.ค. 64) นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้แถลงข่าวชี้แจงกรณีนี้ โดยยืนยันว่า อย. ยังไม่มีการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ของ Pfizer แต่อย่างใด โดยกลไกการนำเข้าวัคซีนนั้น บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จะต้องยื่นขออนุญาตเป็นผู้นำเข้า และขอขึ้นทะเบียนยาต่อ อย. และขั้นตอนในการนำเข้ามาก็จะต้องผ่านด่านของ อย. ทุกครั้ง ซึ่งหลังมีกรณีนี้ ได้ไปตรวจสอบในทุกส่วนงานแล้ว พบว่ายังไม่มีการนำวัคซีนโควิด-19 ของ Pfizer เข้ามา

นอกจากนี้ อย. ยังได้สอบถามไปยัง บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งทางบริษัทก็ยืนยันเช่นกันว่า ยังไม่ได้มายื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียน ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงเจรจา และบริษัทเองก็มีนโยบายที่จะขายวัคซีนให้กับภาครัฐเท่านั้น ดังนั้น ขณะนี้จึงไม่สามารถที่จะนำวัคซีนเข้ามาได้แน่นอน

นายแพทย์ไพศาล กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเตือนว่าถ้ายาหรือวัคซีนใดไม่ได้ขึ้นทะเบียน และนำเข้ามาโดยไม่มีทะเบียน จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเป็นโทษตามพระราชบัญญัติยา

ด้านนายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ยังกล่าวด้วยว่า ทางบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ยืนยันว่าเว็บไซต์ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลแผนที่ประเทศนี้ ไม่ใช่เว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งหลังจากนี้ บริษัทอาจมีการแถลงความชัดเจนเพิ่มเติมด้วยตนเองอ้างอิง : https://www.nytimes.com/…/coronavirus-vaccine-tracker…