PUBLIC HEALTH

เสนอตั้ง ‘สถานกักตัวชุมชน’ แยกผู้ติดเชื้อจากครอบครัว ป้องกันการระบาดในบ้าน

“พรรคกล้า” ยื่นหนังสือถึง นายกฯ – ศบค. เสนอตั้งสถานกักตัวชุมชน แยกผู้ติดเชื้อออกจากครอบครัว ป้องกันการระบาดในบ้านแบบทวีคูณ ย้ำ พบผู้ติดเชื้อ ต้องให้ยาทันที ถ้าฟาวิพิราเวียไม่พอ ฟ้าทะลายโจรพร้อมเป็นทางออก

นายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร กรรมการบริหารพรรคกล้า พร้อมด้วย นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมายพรรค ทพ.กันตพงศ์ ดีชัยยะ คณะทำงานด้านสาธารณสุขของพรรค และนายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยนำเสนอปัญหาที่พบจริงหลังการลงพื้นที่ พร้อมข้อเสนอป้องกันการระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ว่า

สถานการณ์ยังไม่ส่อแววว่าจะดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อจริงอาจจะสูงกว่าที่ ศบค. รายงานไว้ เพราะมีคนอีกจำนวนมากยังไม่เข้าถึงการตรวจ เนื่องจากไม่มีกระบวนการรักษารองรับ หลายรายได้รับการตรวจเชิงรุกแล้ว แต่ไม่ได้นำชื่อผู้ติดเชื้อเข้าสู่กระบวนการรอรับเตียง สุดท้ายผู้ติดเชื้อก็ต้องกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวตามเดิม บางบ้านใช้วิธีกักตัวเอง แยกห้องกับสมาชิกครอบครัวคนอื่น แต่ไม่ใช่ทุกบ้านที่จะทำแบบนี้ได้ หลายครอบครัวจึงเกิดการติดเชื้อแบบ “ทวีคูณ” ภายในครัวเรือน จากติด 1 คน กลายเป็นติดทั้งบ้าน พรรคกล้าจึงมีข้อเสนอ ที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการป้องกันการระบาดอย่างเป็นระบบดังนี้

1.) “จัดตั้ง Community-City Quarantine”
หากพบผู้ติดเชื้อ แต่บ้านที่มีขนาดกลาง-เล็ก มีสมาชิกในครอบครัวจำนวนมาก หรือวิถีชีวิตไม่สามารถแยกกักตัวที่บ้านได้ (Home Isolation) ให้มีกระบวนการแยกผู้ติดเชื้อออกจากสมาชิกในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดทันที แล้วนำมากักตัวในพื้นที่เฉพาะที่ชุมชนหรือจังหวัดตั้งขึ้น โดยขอให้รัฐผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆ เกี่ยวการใช้สถานที่เพื่อการรักษาพยาบาลชั่วคราว เพื่อจัดตั้งสถานกักตัวในชุมชน ใช้อาสาสมัครหรือสร้างรายได้ด้วยการจ้างคนในชุมชนที่ผ่านการฝึกอบรมแล้ว เป็นผู้ดูแลแทนแพทย์และพยาบาลไปพลางก่อน

2.) “ติดเชื้อปุ๊ป รับยาทันที”
เมื่อพบว่ามีการติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่กักตัวเองอยู่ที่บ้าน หรืออยู่ในสถานกักตัวชุมชนตามข้อเสนอข้างต้น ซึ่งอยู่ระหว่างการรอเตียงเข้ารับการรักษา ต้องได้รับยาทันที ซึ่งทราบว่ายาฟาวิพิราเวีย (Favipiravir) มีเหลืออยู่ในคลังถึง 2.9 ล้านเม็ด และมีแผนจัดหาในเดือนกรกฎาคมอีก 5 ล้านเม็ด ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงกันยายนอีก 3 ล้านเม็ด ซึ่งมีปริมาณมากพอ เหลือแต่เพียงการกระจายให้ผู้ป่วยอย่างทั่วถึง

และที่น่าสนใจคือการให้ยาสมุนไพร “ฟ้าทะลายโจร” ได้ทันทีเมื่อพบว่าติดเชื้อ โดยพบว่าสารแอนโดรกราโฟไลด์ในฟ้าทะลายโจร สามารถ บรรเทาอาการและรักษาโรคติดเชื้อโควิด-19 ได้ โดยร่างกายต้องได้รับสารแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งมีการทดลองแล้วว่า เมื่อได้รับยาติดต่อกัน 5 วัน จะเกิดภาวะปอดอักเสบน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับยาฟ้าทะลายโจร ประกอบกับต้นทุนราคาถูกกว่า สามารถหาซื้อได้ง่าย จึงเหมาะสมเป็นอีกหนึ่งยาหลักที่ผู้ติดเชื้อควรได้รับทันที

ข้อเสนอของพรรคกล้าทั้ง 2 ข้อ มีจุดประสงค์เพื่อชะลอการระบาดไม่ให้สถานการณ์ไปถึงจุดวิกฤต หากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวันสูงถึง 5,000 ถึง 6,000 คนต่อไปเรื่อยๆ สิ่งที่จะตามมาก็คือวิกฤตระบบสาธารณสุข บุคลากร-เครื่องมือทางการแพทย์ไม่เพียงพอ จำนวนผู้เสียชีวิตก็จะมากขึ้นตามลำดับ ดังนั้นพรรคกล้าจึงเห็นว่า การแก้ปัญหาที่ต้นทางเป็นเรื่องที่จำเป็น “เพราะการรักษาที่เร็วที่สุด คือการรักษาที่ดีที่สุด”

นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แนวคิดการให้ยาฟาวิพิราเวียหรือยาสมุนไพรหรือยาฟ้าทะลายโจรทันทีที่ติดเชื้อ สอดคล้องกับแนวทางที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเบื้องต้นไปแล้ว ส่วนแนวคิดการจัดตั้งสถานกักตัวตัวชุมชน เพื่อแยกผู้ติดเชื้อออกจากครอบครัว ป้องกันการระบาดแบบทวีคูณ คงเป็นเรื่องที่คณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคงจะมีการพิจารณากัน โดยจะนำเรื่องนำเสนอต่อนายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และกรรมการ ศบค. เพื่อนำเสนอฝ่ายที่เกี่ยวข้องและนายกรัฐมนตรีต่อไป

Related Posts

Send this to a friend