PUBLIC HEALTH

สรุปมติ ศบค. 1 ส.ค. ขยายล็อกดาวน์ ปรับพื้นที่สถานการณ์ (อัปเดต)

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงข่าวหลังการประชุม ศบค. วันที่ 1 สิงหาคม 2564 โดยมีสรุปรายละเอียดดังนี้

1. ปรับพื้นที่สถานการณ์
เพิ่มจังหวัดสีแดงเข้มเป็น 29 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครนายกนครราชสีมา นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี อยุธยา เพชรบุรี ปัตตานี เพชรบูรณ์ ยะลา ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สงขลา สิงห์บุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง

ปรับจังหวัดสีแดง เป็น 37 จังหวัด ประกอบด้วย กาฬสินธุ์ กำแพงเพชรขอนแก่น จันทบุรี ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครศรีธรรมมราช นครสวรรค์บุรีรัมย์ พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก มหาสารคาม ยโสธร ระนอง ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สกลนครสตูล สระแก้ว สุโขทัย สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อุดรธานี อุบลราชธานีและอำนาจเจริญ

ปรับจังหวัดสีส้ม เป็น 11 จังหวัด ประกอบด้วย กระบี่ นครพนม น่าน บึงกาฬ พะเยา พังงา แพร่ ภูเก็จ มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน และสุราษฎร์ธานี
(ไม่มีจังหวัดสีเหลือง และเขียว)

เริ่มต้น 0.01 น. ของวันที่ 3 สิงหาคม 2564 (ประกาศเดิมสิ้นสุดวันที่ 2 สิงหาคม 2564) และบังคับใช้อย่างน้อย 14 วัน และจะทบทวนอีกครั้ง โดยสามารถพิจารณาขยายเวลาได้ถึง 31 สิงหาคม 2564 หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น

2. มาตรการต่างๆ

– มาตรการของแต่ละพื้นที่สถานการณ์จะยังคงเดิมกับประกาศก่อนหน้า แต่ปรับมาตรการสำหรับห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ในพื้นที่สีแดงเข้ม ให้สามารถเปิดบริการได้เฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านยา เวชภัณฑ์ จุดฉีดวัคซีน และเพิ่มเติมการเปิดให้ร้านอาหาร และเครื่องดื่มสามารถเปิดให้บริการแบบ Delivery ได้ (ไม่สามารถเปิดให้บริการแบบ ซื้อนำกลับได้) และเปิดได้ไม่เกิน 20.00 น.

– ส่วนพื้นที่สีแดง และส้มห้างสรรพสินค้าสามารถเปิดบริการได้ตามปกติ แต่จำกัดจำนวน และงดจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย

3. ปรับมาตรการสำหรับภาคอุตสาหกรรมในลักษณะ Bubble & Seal สำหรับการป้องกัน และควบคุมโควิด-19 (จัดกลุ่ม คุมไว ลดแพร่กระจาย รายได้ไม่สูญเสีย)

4. การกระจายวัคซีน

– เน้นให้กระจายไปยังกลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และประชาชน 7 กลุ่มโรค) ให้ได้มากที่สุด และขอให้สถานที่ฉีดวัคซีนจัดระเบียบ ระยะห่าง และมาตรการต่างๆ อย่างเคร่งครัด

– จะกระจายวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับการบริจาคจากสหรัฐอเมริกาให้กับบุคลากรทางการแพทย์ทุกแผนก รวมถึงกลุ่มด่านหน้า อย่าง อสม. อย่างทั่วถึงและเป็นธรรมที่สุด

5. ให้มีการจัดการเรื่องชุดตรวจด่วน ATK ให้รวดเร็วทั่วถึง (รายละเอียดจะแถลงต่อไป)

สำหรับรายละเอียดทั้งหมด จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป คาดว่าจะเป็นภายในคืนนี้

Related Posts

Send this to a friend