KNOWLEDGE

โครงการอาสาจุฬาภรณ์ เน้นให้ความรู้การดูแลสุขอนามัยที่ถูกต้อง และถ่ายทอดสู่ชุมชน

ศาสตราจารย์ นายแพทย์วิสุทธิ์ ล้ำเลิศธน รักษาการรองคณบดี วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน เป็นประธานเปิด การจัดอบรม “โครงการอาสาจุฬาภรณ์” ที่จัดขึ้นวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพ ของอาสาจุฬาภรณ์ ให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการดูแลสุขภาพอนามัยของตนเองได้ดี สามารถถ่ายทอดความรู้ระหว่างกัน และสามารถดูแลสุขภาพคนในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ณ CRA Hall ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์วิสุทธิ์ กล่าวว่า “กิจกรรมวันนี้ ประชาชนที่มาตั้งใจอยากได้ความรู้ ส่วนนักศึกษาของเราได้เรียนรู้ รับทราบ มีปฏิสัมพันธ์กับชุมชน เขาจะได้รู้ด้วยว่าชุมชนที่มามีสุขสภาวะดีขึ้นอย่างไร จากการที่ทุกฝ่ายช่วยกัน นอกเหนือจากนั้นยังมีประโยชน์ด้านงานวิจัย นำความรู้จากการทำงานเชิงรุกไปต่อยอด และแก้ปัญหาตรงจุด ซึ่งแผนงานในอนาคตเราอยากสร้างชุมชนต้นแบบที่มีความยั่งยืน ให้เป็นไปตามสามหลักการ สร้างคนให้อาสาสมัครจุฬาภรรณ์ ได้ตระหนักรู้ เอาความรู้ไปดูแลตัวเอง ครอบครัว ชุมชน จากนั้นใช้เทคโนโลยีมาช่วย เก็บข้อมูลเพื่อใช้ประโยชน์ในการดูแลตัวเอง รวมถึงการทำงานวิจัยของนักศึกษา ท้ายที่สุดสามารถเชื่อมต่อ สร้างระบบบริการให้ประชาชน ส่งต่อข้อมูลจากชุมชนสู่สถานบริการได้อย่างไม่ติดขัด”

“ทั้งนี้วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ดำเนินโครงการอาสาจุฬาภรณ์เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และตามรอยพระปณิธานในศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่ทรงเล็งเห็นความสำคัญ ของปัญหาสุขภาพของประชาชนในชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุมชนเมือง ซึ่งดำรงชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีมลภาวะ ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารมีจำนวนมาก แต่ประชาชนจำนวนมาก ยังขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องด้านสุขภาพ รวมทั้งขาดปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนในชุมชนด้วยกันเอง โครงการอาสาจุฬาภรณ์เป็นโครงการที่เน้น 3 หลักการ ได้แก่”

1.การสร้างคน ได้แก่ อาสาจุฬาภรณ์ ให้เป็นผู้ที่มีความรู้ ได้รับการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ มีความมั่นใจในการดูแลสุขภาพของตนเอง ครอบครัว และชุมชน
2.การสร้างเครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูล ในรูปแบบแอปพลิเคชันอาสาจุฬาภรณ์
3.การสร้างระบบการบริการสุขภาพ ที่เชื่อมโยงจากชุมชนสู่สถานบริการ เพื่อให้เกิดระบบชุมชนต้นแบบที่มีความเข้มแข็ง ด้านสุขภาพสู่ความยั่งยืนของประเทศไทย

“จากการดำเนินงานโครงการอาสาจุฬาภรณ์ที่ผ่านมา พบว่าอาสาจุฬาภรณ์รุ่นที่ 1 และ 2 มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการดูแลสุขภาพอนามัยของตนเองได้ดี สามารถถ่ายทอดความรู้ระหว่างกัน และสามารถดูแลสุขภาพคนในชุมชน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นได้จากการที่ชุมชนดังกล่าว ได้ผ่านวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของ โรค COVID-19 ที่ผ่านมาได้อย่างเข้มแข็งและปลอดภัย และโครงการอาสาจุฬาภรณ์ ได้รับการตอบรับที่ดีจากชุมชน มีผู้เข้ารับการอบรมอย่างต่อเนื่องสู่รุ่นที่ 3 และมีนักศึกษาจากวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน เข้าร่วมเป็นอาสาจุฬาภรณ์ในทุกรุ่น”

“ด้วย วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน จึงได้จัดโครงการอาสาจุฬาภรณ์ขยายผล และขยายพื้นที่เป้าหมายการพัฒนาศักยภาพของประชาชน รวมถึงการสนับสนุนให้ประชาชน และบุคลากรในหน่วยงานท้องถิ่นนั้น มีส่วนร่วมในการสร้างเสริมสุขภาพ ปฏิบัติหัตถการทางการแพทย์ในเบื้องต้นได้ อีกทั้งมีส่วนร่วมในการสร้างระบบการดูแล ส่งเสริมสุขภาพชุมชน และสนับสนุนการวิจัยชุมชนที่อาจช่วยพัฒนาชุมชนในระยะยาว ทั้งนี้ยังให้อาสาจุฬาภรณ์เสนอแนวคิด ในการพัฒนาชุมชน เพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเอง และชุมชนไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน”

“สำหรับโครงการอาสาจุฬาภรณ์ ขยายผลสู่ชุมชนเมืองครั้งนี้ อาสาจุฬาภรณ์ที่เข้าร่วมโครงการได้แก่ อาสาจุฬาภรณ์ รุ่นที่ 1-3 ของชุมชนเมือง ได้แก่ ชุมชนการเคหะหลักสี่และชุมชนโดยรอบ ประกอบด้วย อาสาจุฬาภรณ์ รุ่นที่ 1 จำนวน 40 คน อาสาจุฬาภรณ์ รุ่นที่ 2 จำนวน 31 คน อาสาจุฬาภรณ์ รุ่นที่ 3 จำนวน 44 คน นักศึกษาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน จำนวน 57 คน รวม 172 คน”

“ทั้งนี้กิจกรรมพัฒนาอาสาจุฬาภรณ์ ชุมชนเมือง ประกอบด้วย กิจกรรมสานสัมพันธ์ และกิจกรรมภาคปฏิบัติ 9 ฐาน ที่ให้ความรู้ทางวิชาการที่หลากหลาย อาทิ กะหล่ำปลีบรรเทาปวด,ฐานการวัดความดัน,ฐานการทำแผลอย่างถูกต้อง,ฐานการเจาะวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเอง,ฐานการวัดสัดส่วนร่างกายที่ถูกต้อง,ฐานการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์,ฐานสุขภาพจิตในชุมชน ฐานการช่วยเหลือชีวิตขั้นพื้นฐาน หรือ Basic Life Support และการระดมความคิด เพื่อทำกิจกรรมในชุมชน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม “ค้นหาของดี เรียนรู้ชุมชน” เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างรายได้เสริมผ่านการมีส่วนร่วม ด้านสุขภาพของประชาชนในชุมชนอีกด้วย

นอกจากนี้ ได้รับเกียรติจาก อาจารย์พชรพล พะระรามันห์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอาหารในชุมชน เพื่อค้นหาของดีในชุมชน ที่สามารถนำไปพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์ ในการดูแลสุขภาพนำไปสู่การสร้างรายได้ที่ยั่งยืน ทั้งนี้อาสาจุฬาภรณ์ได้ค้นพบ สิ่งที่สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดมากกว่า 10 อย่าง เช่น การนำพืชสมุนไพรในชุมชน มาทำเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และสร้าง Gastronomy Tourism เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวบริเวณรอบชุมชนอีกด้วย ฯลฯ ท้ายสุดอาสาจุฬาภรณ์ยังได้ระดมความคิด เสนอโครงการพัฒนาสุขภาพในชุมชน เช่น โครงการรำกลองยาวเพื่อสุขภาพ,บาสโลปเพื่อสุขภาพกายและใจที่ดี และโครงการหมอมาแล้ว ฯลฯ

Related Posts

Send this to a friend