KNOWLEDGE

ม.หอการค้าไทย ฉลองครบ 60 ปี ประกาศจุดยืน สร้างคนคุณภาพสู่สังคม ด้วยหลักสูตรทางธุรกิจที่หลากหลาย

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หรือ UTCC ในเดือนมิถุนายนปีนี้ ได้เปิดดำเนินการมาครบ 60 ปีแล้ว และยังคงมุ่งมั่นสร้างคนคุณภาพสู่สังคม ให้เป็นกำลังสำคัญในการกระตุ้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ให้รุดหน้าได้อย่างยั่งยืน อาทิ การเปิดหลักสูตร ‘การตลาดดิจิทัล Digital Marketing’ ที่นำผู้เชี่ยวชาญ ในหลากหลายวงการตลาดดิจิทัล มาร่วมสร้าง‘เด็กหัวการค้าดิจิทัล’ รวมไปถึงอนาคตที่มหาวิทยาลัยฯ จะเปิดคณะพยาบาลศาสตร์ เพราะมองว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ ซึ่งก็จะช่วยตอบโจทย์ธุรกิจการแพทย์ ได้ในเชิงของการตลาดและการทำธุรกิจ

หรือแม้แต่หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง อย่างหลักสูตร เทพเซียน (TEPCIAN) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เน้นการเรียนองค์ความรู้จีนระดับ “เซียน” หลักสูตรนี้คัดนักธุรกิจ ทั้งคนไทยและคนจีน มาเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อต่อยอดธุรกิจด้านการค้า การลงทุนไทย-จีน ทำให้ผู้บริหารระดับสูงทั้งชาวไทย และชาวจีน สามารถทำการค้าการลงทุนระหว่างสองประเทศได้

รองศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า “แม้จะมีอายุ 60 ปีในปีนี้ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยของเรายังมีไฟ มีแรงกายแรงใจ มีจุดยืนที่เข้มแข็งจากการที่เรา มีรากเหง้าของการรวมกลุ่มพ่อค้านักธุรกิจ จนตั้งเป็นสภาหอการค้าไทย กลุ่มพ่อค้านักธุรกิจคนไทยเชื้อสายจีนนั้น ก็อยากสร้างความเติบโตให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ และยังต้องการถ่ายทอดองค์ความรู้ การทำธุรกิจการค้าให้กับลูกหลาน เพื่อดำเนินธุรกิจให้ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆได้อย่างมีหลักการ นี่คือจุดกำเนิดของมหาวิทยาลัย”

“ต่อมาเมื่อเกิด “วิกฤตต้มยำกุ้ง” เป็นช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงิน ซึ่งส่งผลกระทบถึงหลายประเทศในทวีปเอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประเทศไทยได้รับผลกระทบทั้งด้านการเงิน การลงทุน สถาบันการเงิน บริษัทเลิกกิจการ ปลดพนักงานกันอย่างมากมาย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ก้าวไปอีกขั้นที่มากกว่า การเป็นสถาบันอุดมศึกษา สู่การเป็น Think Thank ของประเทศ นำองค์ความรู้ทางด้านเศรษฐศาสตร์ มาพัฒนาเป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ ด้วยการตั้งศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ แหล่งรวบรวมข้อมูล ศึกษาวิจัย เพื่อพยากรณ์ภาวะเศรษฐกิจ และธุรกิจ สร้างเครื่องชี้วัดที่สามารถคาดการณ์ ภาวะเศรษฐกิจล่วงหน้าได้ตามหลักวิชาการ เพื่อให้ภาครัฐและภาคเอกชน ใช้อ้างอิงและเตรียมพร้อมรับมือ ทั้งการตัดสินใจที่จะลงทุน หรือปรับเปลี่ยนแผนงานได้ทันการ”

“ยิ่งมหาวิทยาลัยมีอายุมากขึ้นเท่าไหร่ ก็เหมือนคนที่คุณวุฒิสูง วัยวุฒิสูง เก๋าแต่ไม่แก่ มีความน่าเชื่อถือ ผมคิดว่าวันนี้มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ต้องเป็นมหาวิทยาลัย เพื่อผู้ประกอบการดิจิทัลยุคใหม่หรือThe University of Modern Digital Entrepreneurship ไม่ใช่เพราะกลัวตกเทรนด์ แต่เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและความเคยชินให้นักศึกษา ขณะเดียวกันก็ยังเชื่อว่า ‘การรวมกันเราอยู่’ ยังใช้ได้เสมอกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหลายองค์กรทั้งภาครัฐภาคเอกชนมากมาย ซึ่งไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแค่ไหน แต่สิ่งที่มหาวิทยาลัยไม่ควรเปลี่ยน คือการสร้างคนที่มีคุณภาพเพื่อพัฒนาสังคม นี่คือสิ่งที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยึดมั่นทำมาตลอดและทำต่อไป”

รองศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ หรือ “อาจารย์กอล์ฟ” กล่าวว่า “60 ปีของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยในวันนี้ เราก้าวมาถูกทิศทางแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องของการปรับปรุงหลักสูตร การจัดการเรียนการสอนที่ตอบโจทย์เทรนด์ยุคสมัย ไลฟ์สไตล์เด็กรุ่นใหม่ด้วยความเป็น Professional University คือถ้ามองเรื่องเศรษฐกิจการค้า การทำธุรกิจ ก็อยากให้นึกถึงมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยของเรา เพราะเป็นรากเหง้ารากแก้ว ของมหาวิทยาลัยที่หยั่งรากลึกมานานถึง 60 ปี แข็งแกร่งและยังแตกรากแขนงแยกย่อย ไปอีกหลายศาสตร์สาขาวิชาที่เราเชื่อว่ามีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจของชาติ บัณฑิตของเราที่สำเร็จ การศึกษาออกไปก็ล้วนแต่มีรายได้ มีอาชีพหน้าที่การงานที่มั่นคง แสดงให้เห็นว่าบัณฑิตของเรา มีประสิทธิภาพเป็นที่ประจักษ์จากหลักสูตรและคุณภาพการเรียนการสอนของเรา อย่างเช่นผลดีของการมี คณะการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ ที่ได้รับรองมาตรฐาน”

การศึกษา UNWTO.TEDQUAL จากองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ ซึ่งมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนในไทยเพียงแห่งเดียว ที่ได้รับการรับรองนี้ เรามองว่าการเรียนเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ในเชิงการทำธุรกิจการค้า จะช่วยตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เพราะประเทศจะพัฒนาได้จาก อุตสาหกรรมบริการและการท่องเที่ยว ล่าสุดเราก็เปิดหลักสูตร ‘การตลาดดิจิทัล Digital Marketing’ ที่เราได้ตัวจริงหลากหลายวงการตลาดดิจิทัลมาร่วมสร้าง‘เด็กหัวการค้าดิจิทัล’

รวมไปถึงอนาคตที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเราจะเปิด คณะพยาบาลศาสตร์ เพราะมองว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ ซึ่งก็จะช่วยตอบโจทย์ธุรกิจการแพทย์ ได้ในเชิงของการตลาดและการทำธุรกิจ หรือแม้แต่หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง อย่างหลักสูตร เทพเซียน (TEPCIAN) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เน้นการเรียนองค์ความรู้จีนระดับ “เซียน” ที่ทำให้จีนก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจของโลก หลักสูตรนี้คัดนักธุรกิจทั้งคนไทยและคนจีน มาเรียนรู้ร่วมกันเพื่อต่อยอดธุรกิจด้านการค้า การลงทุนไทย-จีน ทำให้ผู้บริหารระดับสูงทั้งชาวไทย และชาวจีนที่ต้องการทำการค้าการลงทุนระหว่างสองประเทศได้ รู้ลึก รู้รอบ เชื่อมธุรกิจจีน-ไทย เพื่อสร้างความยั่งยืนแข็งแกร่งระหว่างธุรกิจไทยและจีน”

ในวาระครบรอบการสถาปนาปีที่ 60 นี้ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ต้องการเป็นส่วนหนึ่ง ที่ร่วมสร้างความยั่งยืนในมิติต่างๆของประเทศ จึงได้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนา ขีดความสามารถเพื่อความยั่งยืน เพื่อสนับสนุนให้ประเทศ เติบโตได้อย่างเข้มแข็ง และยั่งยืนในระยะยาวสืบไป

Related Posts

Send this to a friend