ENVIRONMENT

‘ชาวกระเหรี่ยงแก่งกระจาน 4 ชุมชน’ ยื่นหนังสือถึง ทส.

เรียกร้องแก้ปัญหา การทำไร่แปลงรวมในชุมชน หลังได้รับผลกระทบจากการแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.อุทยาน ปี2562

วันนี้ (30 พ.ย. 65) เวลา 10:00 น. ชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจานดั้งเดิม จาก 4 ชุมชน ประกอบด้วย ชุมชนห้วยกระซู่, ชุมชนห้วยหินเพิง, ชุมชนสาริกา ต.ยางน้ำกลัดเหนือ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี และชุมชนป่าหมาก ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้ายื่นหนังสือต่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อขอให้มีการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินในรูปแบบแปลงรวมของชุมชนเพื่อทำไร่หมุนเวียนในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและอุทยานแห่งชาติกุยบุรี โดยมี นายกุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ นายสิทธิชัย เสรีส่งแสง รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าพูดคุย และรับหนังสือ

โดยกลุ่มกระเหรี่ยงแก่นกระจานมีข้อเรียกร้องดังนี้

  1. ขอให้รับรองวิถีการใช้โยชน์ด้วยการทำไร่หมุนเวียนของชุมชน ถือเป็นการดำรงชีพอย่างเป็นปกติธุระ
  2. จัดให้มีระบบการจัดการที่แน่นอนของการทำไร่หมุนเวียน ในลักษณะแปลงรวม และการหารือ ระหว่างอุทยานกับชุมชนแต่ละพื้นที่
  3. ขอให้กระทรวงสั่งการให้อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และอุทยานแห่งชาติแก่นกระจานพิจารณาคำขอ และจัดให้มีคณะกรรมการร่วมกันระหว่างชุมชน และเจ้าหน้าที่อุทยาน เรื่องการจัดแปลงรวมทำไร่หมุนเวียน
  4. เพิกถอนประกาศ และระเบียบที่ตัดสิทธิราษฏรที่ตกหล่นจากการไม่ได้แจ้งสิทธิครอบครองที่ดินภายใน 240 วัน

ด้านตัวแทนจากชาวกระเหรี่ยงแก่นกระจาน เปิดเผยภายหลังกับผู้สื่อข่าว The Reporters ว่า วันนี้เดินทางมายื่นหนังสือเกี่ยวกับเรื่องของการทำไร่หมุนเวียนแบบแปลงรวม เนื่องจาก เป็นชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แก่งกระจาน ซึ่งมีชุมชนกว่า 20 ชุมชนที่ยังทำไร่หมุนเวียน ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจาก พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ปี 2562 ที่ได้รับการแก้ไขใหม่ โดยเฉพาะที่บัญญัติเฉพาะกาลมาตรา 64 และมาตรา 65 ซึ่งขัด หรือไม่สอดคล้องต่อรูปแบบแปลงไร่แบบหมุนเวียนตามวิถีชุมชนที่ทำมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ จึงทำให้เกิดจำกัดสิทธิในการทำมาหากิน เพราะจากที่เคยทำกินในรูปแบบปกติโดยอาศัยแบบพึ่งพากัน โดยการหมุนเวียนไร่ของแต่ละชุมชน ที่จะมีการพักฟื้น 5-7 ปีแล้วกลับมาทำทำใหม่ แต่กฎหมายดังกล่าวนั้น มีการจำกัดสิทธิ และส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในชุมชนเป็นอย่างมาก

อีกทั้ง ยังเคยได้ยื่นหนังสือร้องเรียนกับหน่วยงานในท้องถิ่นแล้ว แต่หน่วยงานชี้แจงว่าไม่มีอำนาจจัดการ จึงทำให้ต้องเดินทางมายื่นหนังสือถึงกระทรวงเพื่อให้รับรองการทำแปลงไร่ของพวกตนที่ได้ทำกันมาอย่างเนิ่นนาน

Related Posts

Send this to a friend