ผู้แทนกลุ่มอาเซียน ประเมินความพร้อม “ป่าภูเขียว-ทุ่งกะมัง” ขึ้นทะเบียนมรดกแห่งอาเซียน
ช่วงวันที่ 23-25 ม.ค. ที่ผ่านมา ตัวแทนผู้เชี่ยวชาญ จากศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ พร้อมด้วยผู้แทนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ลงพื้นที่เชิงลึกเพื่อติดตามการนำเสนอพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว(ทุ่งกะมัง) อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เป็นพื้นที่อุทยานมรดกแห่งอาเซียน
สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 65 เห็นชอบให้ประเทศไทย โดยกรมอุทยานแห่งชาติฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำเสนอพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ ขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน คณะกรรมการตัดสินจากศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ เพื่อประเมินก่อนประกาศให้มีการขึ้นทะเบียน คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้
MR. โรเบิร์ต มาสเตอร์ ตัวแทนคณะผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ กล่าวว่า ทุกครั้งที่จะประกาศขึ้นทะเบียนให้พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ในกลุ่มประเทศอาเซียน เป็นมรดกมรดกแห่งอาเซียน มักจะมีคำถามว่า เป็นแล้วจะได้ประโยชน์อะไร
“สิ่งที่คนไทยควรได้ภาคภูมิใจ คือ พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว มีความสำคัญ มีศักยภาพความสมบูรณ์ของผืนป่าต้นน้ำ ต้นกำเนิดแม่น้ำชี และมีความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งด้านสัตว์ป่าและพรรณพืช ที่นานาประเทศทั่วโลกให้การยอมรับ ให้ความสำคัญ ว่าจะต้องช่วยกันรักษาและอนุรักษ์สืบไป และยังได้เป็นพื้นที่อุทยานมรดกแห่งอาเซียน เพื่อได้เป็นศึกษาเส้นทางธรรมชาติในระดับนานาชาติที่สำคัญของอาเซียนระดับภูมิภาค ไม่เฉพาะแต่ในระดับประเทศไทยเท่านั้น” MR. โรเบิร์ต มาสเตอร์ กล่าว
MR. โรเบิร์ต มาสเตอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากความสมบูรณ์ของป่า สัตว์ป่า และพรรณพืช คณะกรรมการยังต้องมองเรื่องความยั่งยืนในอนาคตด้วย ทั้งการจัดการ การบริหารที่ดีมีประสิทธิภาพ ซึ่งจากการลงพื้นที่ พบว่ามีความพร้อมที่จะสามารถดำเนินการให้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่อุทยานมรดกแห่งอาเซียนได้
ภาพ: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว Phu Khieo Wildlife Sanctuary