ENVIRONMENT

สมาคมผู้พิทักษ์ป่า ออกแถลงการณ์ “ขอให้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าถูกเลิกจ้างและปรับลดเงินเดือน”

หลังรัฐบาลปรับลดงบประมาณปี 2565 สำหรับการดูแลป่าลง 47% จากที่เคยได้ 16,143 ล้านบาท ในปี 2564 เหลือเพียง 8,534 ล้านบาทในปี 2565 ส่งผลให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต้องเลิกจ้างเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า 1,731 คน คิดเป็น 33% กรณีนี้ มีเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งยอมให้ปรับลดเงินเดือนลง 25% (จาก 10,000 บาท เหลือ 7,500 บาท) เพื่อแลกกับการไม่ถูกเลิกจ้าง

ผู้อำนวยการสำนักอุทยานฯ ให้ข้อมูลว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คือตั้งแต่ปี 2561-2565 ถูกลดงบประมาณลงทุกปี แต่ปีนี้ลดมากที่สุด และที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าก็มีไม่พออยู่แล้ว โดยเฉลี่ยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า 1 คน ต้องดูแลพื้นที่ป่ามากกว่า 1 หมื่นไร่

ด้านมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำงานด้านการอนุรักษ์ ออกมาเรียกร้องว่า เงินเดือนและสวัสดิการของพนักงานพิทักษ์ป่าไม่ต่างจาก 10 ปีที่แล้ว ในขณะที่รัฐสามารถอนุมัติงบ 13,800 ล้านบาท มาจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ได้ แต่ไม่สามารถเจียดเงินมาดูแลคุณภาพชีวิตของคนที่ดูแลทรัพยากรของประเทศได้

ต่อมา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ทำหนังสือยื่นขอจัดสรรงบประมาณจากงบกลางให้สำนักงบประมาณพิจารณาถึงความจำเป็นในการจ้างเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า เพื่อปกป้องรักษาผืนป่าของประเทศ

สมาคมผู้พิทักษ์ป่า ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมและพัฒนาผู้พิทักษ์ป่าไทยให้มีมาตรฐานระดับสากล ความก้าวหน้าในสายงานอาชีพพิทักษ์ป่า การพัฒนาสวัสดิการของผู้พิทักษ์ป่าอันเป็นการตอบสนองต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศ แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนแม่บท แก้ไขปัญหา การทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน จึงออกแถลงการณ์ โดยระบุว่า

“เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า คือบุคลากรสำคัญที่ช่วยดูแลปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ จากการรุกราน โดยการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ การบังคับใช้กฎหมาย กิจกรรมสิ่งแวดล้อมศึกษา การสร้างความสัมพันธ์กับชุมชน การควบคุมป้องกันและดับไฟป่า การดำเนินการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยและงานด้านอื่นๆ อีกมากมาย ถือได้ว่า เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าคือผู้รับประกันความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศและทรัพยากรธรรมชาติอันทรงคุณค่าของเรา เพราะป่าให้ชีวิต และเราทุกคนตระหนักในข้อนี้ จึงร่วมกันปกป้องผืนป่าของประเทศเหมือนกับการป้องกันรักษาชีวิตของเราเอง”

“การที่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าถูกเลิกจ้างและปรับลดเงินเดือน ทำให้บุคลากรกลุ่มนี้ขาดหายไป และบางส่วนได้ความเดือดร้อนในการดำรงชีพ ขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ซึ่งเป็นกำลังหลักของการดูแลพื้นที่คุ้มครองลดลงลง จึงย่อมส่งผลโดยตรงต่อการปกป้องผืนป่าและสัตว์ป่า สมบัติส่วนร่วมของคนทั้งชาติ เราจึงออกแถลงการณ์ฉบับนี้เพื่อแสดงข้อความห่วงกังวลดังกล่าวข้างต้นไปยังรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงบประมาณ กรรมาธิการพิจารณางบประมาณ เพื่อพิจารณาจัดสรรงบประมาณจากงบกลางในการจ้างเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า และเพิ่มเงินเดือนในเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าให้เพียงพอกับการดำรงชีพในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะการดูแลและคุ้มครองพื้นที่ป่าไม้และสัตว์ป่าที่สมบูรณ์อยู่เดิมแล้วให้คงอยู่ต่อไป เป็นการลงทุนที่ต้นทุนต่ำกว่ามาก เมื่อเทียบกับการปล่อยให้เกิดความเสียหาย และใช้งบประมาณในการฟื้นฟูให้กลับคืนมามีสภาพสมบูรณ์เช่นเดิม”

Related Posts

Send this to a friend