ผลตรวจหมู่บ้านล้างถังสารเคมีที่ โคราช พบปนเปื้อนสารพิษสูงถึง 170 เท่า
ออกแล้ว ผลตรวจหมู่บ้านล้างถังสารเคมีที่ โคราช พบปนเปื้อนสารพิษสูงถึง 170 เท่า เตรียมเสนอผู้ว่าฯ สั่งปิดกิจการถาวร
ความคืบหน้า กรณีมีชาวบ้านซับชุมพล ม.9 ต.หนองหญ้าขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมาว่า ได้รับความเดือดร้อนจากสถานประกอบการล้างถังบรรจุสารเคมี ที่ปล่อยน้ำเสียลงสู่ลำน้ำสาธารณะ และส่งกลิ่นเหม็น ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 15 ก.พ.65 นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้นำคณะเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 (นครราชสีมา), สาธารณสุขจังหวัด, ฝ่ายปกครอง อ.สีคิ้ว, เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.), และ อบต.หนองหญ้าขาว เป็นต้น ลงพื้นที่ตำรวจสอบพบว่ามีสถานประกอบการที่ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบการที่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ 12 ราย จึงได้สั่งปิดกิจการชั่วคราว และหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 (นครราชสีมา) ก็ได้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำในบ่อพักน้ำทิ้งของสถานประกอบการทั้ง 12 แห่ง เพื่อส่งไปตรวจหาสารปนเปื้อนที่เป็นพิษที่กรมควบคุมมลพิษนั้น
นายธนัญชัย วรรณสุข ผอ.สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 (นครราชสีมา) เปิดเผยความคืบหน้า กรณีเจ้าหน้าที่ลงเก็บตัวอย่างน้ำในบ่อน้ำทิ้ง ของสถานประกอบการล้างถังบรรจุสารเคมีที่ไม่มีใบอนุญาตทั้ง 12 แห่ง และสถานประกอบการที่มีใบอนุญาตประเภท 105, 106 อีก 1 แห่ง รวม 14 บ่อ ในหมู่บ้านซับชุมพล ม.9 ต.หนองหญ้าขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ส่งให้กรมควบคุมมลพิษวิเคราะห์หาสารปนเปื้อน ว่า วันนี้ (8 มี.ค. 65) ผลการวิเคราะห์ออกมาแล้ว พบว่ามีค่าความสกปรกในรูปสารอินทรีย์ (BOD) และค่าน้ำเสียที่เกิดจากสารเคมี (COD) เกินค่ามาตรฐานน้ำทิ้งโรงงานทุกบ่อ โดยค่า BOD เกินกว่ามาตรฐานน้ำทิ้งโรงงาน หากปล่อยลงสู่ลำน้ำสาธารณะจะทำให้ค่าออกซิเจนลดลงเหลือ 0 ส่งผลให้ปลาและสัตว์น้ำตายได้ทันที
โดยเฉพาะสถานประกอบการ 2 ราย ที่อยู่ติดกับคลองอีสานเขียว ตรวจวัดค่าความสกปรกในรูปสารอินทรีย์ (BOD) ได้สูงถึง 3,369 และ 3,499 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มากกว่าค่ามาตรฐานน้ำทิ้งโรงงาน ที่จะต้องไม่เกิน 20 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นเกินมาตรฐานกว่า 170 เท่า และยังพบสารหนูปนเปื้อนอีกด้วย 1 บ่อ ที่ติดคลองอีสานเขียว นอกจากนี้ยังพบว่า บางบ่อยังมีค่าความเป็นกรดสูง จนทำให้เครื่องวัดค่าที่เจ้าหน้าที่นำไปตรวจพังเสียหาย และยังพบค่าแคสเมี่ยม ค่าโครเมี่ยม สูงเกินมาตรฐานอีก 5 แห่ง ซึ่งสารเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดโรคมะเร็ง
ทั้งนี้ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 (นครราชสีมา) จะนำผลการวิเคราะห์ส่งให้นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อสั่งปิดสถานประกอบการทั้ง 12 แห่งอย่างถาวร พร้อมเสนอให้ดูดเอาน้ำทิ้งไปทำลายตามกระบวนการที่ถูกต้อง เพราะแม้จะปิดสถานประกอบการไปแล้ว น้ำเสียเหล่านี้ก็ยังมีโอกาสสูงที่จะซึมลงสู่ระดับน้ำใต้ดิน และกระจายไปสู่คลองธรรมชาติ คลองอีสานเขียว หรืออ่างเก็บน้ำซับกะบุตร ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคของชาวบ้าน
