ENVIRONMENT

‘พญาเสือ’ ขยายผลขบวนการจับ ‘ลิงแสม’พบสัตว์ป่าคุ้มครอง-อุปกรณ์เป่ายาสลบจำนวนมาก

หน่วยพญาเสือ ตรวจโรงเรือน จ.พิจิตร ขยายผลขบวนการจับ ‘ลิงแสม’ จากวัดเขาหน่อ พบสัตว์ป่าคุ้มครองและอุปกรณ์เป่าลูกดอกยาสลบจำนวนมาก

วันนี้ (7 ก.พ. 65) นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า หรือ พญาเสือ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 4 สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของผู้ที่จะลักลอบแอบเข้ามาจับสัตว์ประเภทลิง ภายในวัดเขาหน่อ ต.บ้านแดน อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างต่อเนื่อง และได้พบร่องรอยการแอบลักลอบจับลิง โดยใช้อาหารล่อเพื่อให้ลิงออกจากป่า มากินอาหารที่ข้างถนน ก่อนจะใช้เข็มฉีดยาเป็นลูกดอกลักษณะเป่า

หลังขยายผล พบว่ามีการนำลิงที่จับได้จากบริเวณวัดเขาหน่อ ไปกักขังไว้ในโรงเรือนไม่ทราบเลขที่ หมู่บ้านยางห้าหลุม หมู่ที่ 9 ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร ก่อนที่จะขนย้ายไปยังแหล่งอื่น โดยวานนี้ (6 ก.พ. 65) เจ้าหน้าที่หน่วยพญาเสือ ส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม และสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) ได้เดินทางไปยังโรงเรือนดังกล่าวเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม

พบว่าที่บริเวณหน้าประตูโรงเรือน มีแผ่นป้ายไวนิลขนาดใหญ่แสดงใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าคุ้มครอง เล่มที่ 1 ฉบับที่ 113 ลงวันที่ 31 มกราคม 2565 ผู้ได้รับใบอนุญาต คือ นายลี เที่ยงอยู่ ออกให้โดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) จึงได้สอบถามผู้ดูแลโรงเรือน พร้อมทั้งแสดงตนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ อาศัยอำนาจตามมาตรา 81 (2) แห่งพรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 แต่ผู้ดูแลโรงเรือนบ่ายเบี่ยง และขอตัวไปตามเจ้าของมาพบเจ้าหน้าที่ พร้อมกับล็อกกุญแจประตูรั้วไว้ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในบริเวณโรงเรือน

ต่อมาได้มีชาย 2 คน เปิดกุญแจและไล่ลิงออกจากกรงจำนวนกว่า 30 ตัว เป็นการพยายามทำลายพยานหลักฐาน เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวชาย 2 คน และสั่งให้หยุดการกระทำดังกล่าว ก่อนจะเข้าตรวจสอบภายในโรงเรือน พบว่า มีสัตว์ป่าคุ้มครองเหลืออยู่ในกรงคือ ลิงแสม 21 ตัว และเหี้ย 39 ตัว โดยสัตว์ป่าคุ้มครองทั้งหมดไม่มีหลักฐานแสดงการได้มา

เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบอุปกรณ์การเป่าลูกดอกยาสลบที่ใช้งานแล้วและยังไม่ได้ใช้งาน รวมทั้งอุปกรณ์การลักลอบจับลิงอีกหลายรายการ ซึ่งมีความผิดฐานร่วมกันครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ , ความผิดตามมาตรา 17 และมาตรา 92 ฐานร่วมกันไม่อำนวยความสะดวกให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการ , ความผิดตามมาตรา 81 ต้องระวังโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท , ความผิดตามมาตรา 98 ฐานทิ้งหรือปล่อยเป็นอิสระซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือสัตว์ป่าควบคุม หรือกระทำการใดๆ ให้สัตว์ป่านั้นพ้นจากการดูแลของตน ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ , ความผิดตามมาตรา 15 ประกอบมาตรา 91 ตามพรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และฐานขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่

Related Posts

Send this to a friend