ENVIRONMENT

อช. เขาชะเมา-เขาวง ลาดตระเวนพบซากกระทิงเพศเมีย เท้าติดบ่วงแร้ว ขาดน้ำขาดอาหารจนขาดใจตาย

วันนี้ (7 ม.ค. 65) นายนิทัศน์ นุ่นสง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง ร่วมกับฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่า (เขายายดา) ร่วมกันลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อถึงบริเวณบ้านคลองหิน หมู่ 1 ต.ห้วยทับมอญ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง ได้กลิ่นเหม็นเน่าคล้ายซากสัตว์ป่า จึงกระจายกำลังค้นหา

การค้นหา พบซากกระทิงเพศเมีย จำนวน 1 ซาก อายุประมาณ 15-20 ปี เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 15-20 วัน ตรวจสอบตามลำตัว หัว ไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยกระสุน ผิวหนังแห้งติดกระดูก มีฝูงแมลงวันตอม และพบเชือกบ่วงไนลอนรัดบริเวณขาหน้าซ้าย ปลายเชือกอีกด้านผูกยึดติดกับต้นไม้ จึงได้ประสานสัตวแพทย์ประจำ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เพื่อตรวจพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิต

จากตรวจสอบพื้นที่บริเวณโดยรอบ ยังพบบ่วงแร้วเชือกไนลอน ขนาด 4 หุน ยาว 3 ม. จำนวน 32 เส้น และหมุดเหล็กยึดบ่วงแร้ว ขนาด 3 หุน ยาว 40 ซม. จำนวน 66 อัน จึงสันนิษฐานได้ว่า กระทิงได้ติดกับดักบ่วงแร้ว ขาดน้ำและอาหารติดต่อกันหลายวันจนขาดใจตาย ทั้งนี้ หากทิ้งซากสัตว์ป่าไว้นาน อาจเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคและไม่สามารถเก็บรักษาไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบคดีได้ สัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่จึงได้ทำลายซากสัตว์ป่าตามหลักวิชาการ ด้วยการฝังกลบซากบริเวณสถานที่ปลอดภัยจากการแพร่เชื้อ พร้อมทั้งทำบันทึก นำเรื่องราวและอุปกรณ์ของกลางในการกระทำผิด กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เขาชะเมา อ.เขาชะเมา จ.ระยอง เพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำหรับกระทิง หรือ เมย (Bos gaurus) เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ลำดับที่ 4 ตามทะเบียนแสดงบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง ประกาศกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2546 สำหรับพฤติกรรมวางกับดักบ่วงแร้วจนส่งผลให้กระทิงตายครั้งนี้ ถือเป็นความผิดฐาน “ล่อหรือนำสัตว์ป่าออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการทั้งปวง” ตาม ม.19 (3) ประกอบ ม.43 แห่ง พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ยังมีความผิดฐาน “เข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ในเขตอุทยานแห่งชาติ” ตาม ม.19 (6) ประกอบ ม.44 แห่ง พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ฐาน “นำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม ม.19 (7) ประกอบ ม.45 แห่ง พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท และความผิดฐาน “เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตาม ม.20 ประกอบ ม.47 แห่ง พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท

Related Posts

Send this to a friend